txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# IBM Spectrum Protect โซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยให้ข้อมูลในยุคที่องค์กรต้องปรับตัวตามกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล
การจัดเก็บข้อมูลขององค์กรนับเป็นภารกิจสำคัญของระบบไอที เพราะต้องดูแลข้อมูลธุรกิจให้พร้อมใช้งาน, มีความปลอดภัย, และตรวจสอบได้ แต่ผู้ดูแลระบบที่รับผิดชอบการสำรองข้อมูลต้องพบความกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะระบบไอทีขององค์กรซับซ้อนขึ้นตามกาลเวลา ในอีกด้าน องค์กรก็มีภาระต้องรับผิดชอบตามแนวทางการกำกับดูแลใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น กฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลทั่วโลก หรือภัยการโจมตีไซเบอร์อย่าง ransomware
IBM Spectrum Protect เป็นโซลูชั่นปกป้องข้อมูล (data protection) แบบครบวงจร รองรับข้อมูลได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เซิร์ฟเวอร์, แอปพลิเคชั่นเซิร์ฟเวอร์, หรือ virtual machine ก็ตาม และตัวข้อมูลสามารถเก็บไปยังเทป, ไฟล์เซิร์ฟเวอร์ในองค์กรเอง, หรืออาศัยบริการคลาวด์ก็ได้ ระบบสามารถขยายตัวตามปริมาณข้อมูลในองค์กร เซิร์ฟเวอร์แต่ละตัวสามารถจัดการข้อมูลได้นับพันล้านชุด
ลดงานผู้ดูแลระบบ
ภารกิจหลักของการดูแลระบบข้อมูลคือการสำรองข้อมูล (backup) ซึ่ง IBM Spectrum Protect มีเครื่องมือช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการข้อมูลสำรองได้อย่างสะดวก เช่น
คอนโซล IBM Spectrum Protect Operation Center ทำให้ผู้ดูแลระบบเห็นสถานะของข้อมูลสำรองทั้งหมดขององค์กร
ตั้งค่าการสำรองข้อมูล (replication) ได้อย่างละเอียด เช่น เก็บเฉพาะส่วนที่เปลี่ยนแปลง (incremental) และตั้งค่าตาม policy ที่กำหนดได้ ลดโอกาสคอนฟิกผิดและข้อมูลรั่วไหล มีระบบกำหนด data lifecycle อัตโนมัติ
จัดการการสำรอง virtual และ Container environment ตั้งเวลาสำรองข้อมูล, ตรวจสอบสถานะการสำรองข้อมูลได้ตามต้องการ
สั่ง restore ข้อมูลสำรองจาก VMware vSphere Client ได้ทันที
IBM ยังให้เอกสาร blueprint สำหรับ IBM Spectrum Protect และตัวอย่างสคริปต์คอนฟิก ช่วยให้ผู้ดูแลระบบเรียนรู้การใช้งานแบ็คอัพที่เหมาะสม (best practice) ได้อย่างรวดเร็ว สามารถคอนฟิกระบบให้ทำงานได้สมบูรณ์ในเวลาไม่นาน เพราะทำตามตัวอย่างของ IBM ได้เลย
ทำงานร่วมกับคลาวด์เต็มรูปแบบ
IBM Spectrum Protect สามารถทำงานร่วมกับบริการคลาวด์ชั้นนำ เช่น IBM Cloud, Amazon S3, Google Cloud, หรือ Microsoft Azure
ส่วนการเก็บข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์เองสามารถเลือกทางเลือกได้หลากหลาย ทั้ง สตอเรจแบบแฟลช, แบบดิสก์, เทป, หรือออปเจกต์สตอเรจภายในองค์กรเอง สามารถตั้งนโยบายการสำรองข้อมูลล่วงหน้า เพื่อโยกย้ายข้อมูลไปยังสตอเรจที่ถูกลงเมื่อข้อมูลสำรองเก่าลงเรื่อยๆ ลดต้นทุนการเก็บข้อมูลสำรองในระยะยาว
มีฟีเจอร์ระดับสูง เช่น การตรวจสอบข้อมูลซ้ำซ้อน (deduplication) เพื่อลดค่าใช้จ่ายเรื่องพื้นที่เก็บข้อมูลและแบนด์วิดท์ มีฟีเจอร์เข้ารหัสข้อมูลลดความเสี่ยงข้อมูลรั่วไหล
ฟีเจอร์ต่างๆ ที่กล่าวมาทำงานจากซอฟต์แวร์โดยไม่ต้องการฮาร์ดแวร์พิเศษ ลดต้นทุนค่าฮาร์ดแวร์เฉพาะลงได้ นอกจากนี้ซอฟต์แวร์ยังมี REST API ให้ทำงานเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ภายในองค์กรหรือบนคลาวด์
ป้องกัน Ransomware โดยเฉพาะ
ฟีเจอร์พิเศษของ IBM Spectrum Protect คือการป้องกันในกรณีองค์กรถูกโจมตีไซเบอร์ โดยเฉพาะการโจมตีจากมัลแวร์ในกลุ่ม ransomware ที่ระบาดหนักในทุกวันนี้
IBM Spectrum Protect สามารถตรวจสอบการสำรองข้อมูล และวิเคราะห์หาร่องรอย ransomware โดยอัตโนมัติ หากพบว่าข้อมูลที่สำรองอาจจะมี ransomware อยู่ระบบจะแจ้งเตือนผู้ดูแลระบบทันที ก่อนที่ ransomware จะเริ่มทำงาน
กระบวนการป้องกันข้อมูลสูญหายมีการป้องกันเป็นพิเศษด้วยระบบ two key authorization ป้องกันการลบข้อมูลโดยไม่ตั้งใจ โดยอาศัยการยืนยันจากผู้ดูแลระบบสองคน
เริ่มใช้งานได้วันนี้กับองค์กรทุกขนาด
ฟีเจอร์ของ IBM Spectrum Protect รองรับการจัดการขององค์กรขนาดใหญ่ แต่ซอฟต์แวร์ก็ออกแบบให้ใช้งานได้กับองค์กรทุกขนาดเช่นกัน หากเป้นองค์กรขนาดเล็กที่ใช้งานกับเซิร์ฟเวอร์ไม่เกิน 50 เครื่องและข้อมูลไม่เกิน 100TB ยังมีราคาพิเศษให้ด้วย
สำหรับองค์กรที่มีความต้องการซับซ้อนขึ้น สามารถเลือกใช้ IBM Spectrum Protect Suit เพื่อกำหนดนโยบายการสำรองข้อมูลที่ซับซ้อนขึ้น, องค์กรที่มีข้อมูลจำนวนมากอาจเลือก IBM Spectrum Protect High Speed Data Transfer ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ IBM เพื่อลดระยะเวลาการโอนถ่ายข้อมูลสำรองลงได้อีก
สนใจข้อมูล IBM Spectrum Protect เพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ติดต่อฝ่ายขายบริษัท Metro Systems Corporation Public Company Limited อีเมล [email protected] หรือโทร 02-089-4994 |
# Ubisoft กำลังทำ Assassin’s Creed แบบ Live Service คล้าย GTA Online
Jason Schreier นักข่าวสายเกมของ Bloomberg ระบุ Ubisoft กำลังซุ่มทำเกม Assassin’s Creed แบบ Live Service รูปแบบแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เพิ่มคอนเทนต์ได้เรื่อยๆ คล้าย GTA Online และ Fortnite มีชื่อรหัสที่รู้กันในออฟฟิศ Ubisoft ว่า “Assassin’s Creed Infinity”
แหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนระบุว่า Assassin’s Creed ภาคนี้จะไม่มียุคสมัยหรือสถานที่ตายตัว แต่สามารถเพิ่มเข้ามาได้เรื่อยๆ หลังตัวเกมเปิดตัวไปแล้ว แต่รายละเอียดอื่นยังไม่แน่ชัด และอาจใช้เวลาพัฒนาอีกหลายปี หลังทีมงานได้รับผลกระทบจากกรณีล่วงละเมิดทางเพศในบริษัท เมื่อปีที่แล้ว
แหล่งข่าวยังระบุว่า Assassin’s Creed Infinity จะเป็นการร่วมมือกันของ Ubisoft Montreal และ Ubisoft Quebec ที่เคยสลับกันทำเกมคนละภาค และมีการแข่งขันภายในที่รุนแรง โดยทั้งสองทีมจะมีครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของตัวเอง แต่ทีม Quebec จะเป็นผู้กุมทิศทางแฟรนไชส์ ซึ่งการรวมทีมนี้อาจสร้างความปวดหัวในการพัฒนาได้พอสมควร
ตัวแทนจาก Ubisoft ยืนยันกับ Jason ว่ามีเกมดังกล่าวอยู่ในขั้นพัฒนาจริง แต่ไม่ระบุรายละเอียดอื่น นอกจากบอกว่าบริษัทตั้งใจจะทำเกมที่เหนือความคาดหวังของแฟนๆ ส่วนกรณีล่วงละเมิดทางเพศ Ubisoft ระบุว่าได้ทำการสืบสวนทุกกรณีและจัดการตามความเหมาะสมแล้ว และพนักงานทุกคนที่ยังไม่ถูกไล่ออกอาจเป็นไปเพราะตรวจสอบแล้วไม่พบความผิด หรืออาจถูกลงโทษทางวินัยภายในบริษัทตามความเหมาะสมแล้ว
เกมแบบ Live Service ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น GTA:V ที่ขายได้ถึง 145 ล้านชุด และ GTA Online ที่ทำรายได้ให้ Take-Two Interactive อย่างถล่มทลาย จึงไม่น่าแปลกใจที่ Ubisoft อยากร่วมเทรนด์นี้ด้วย และคงต้องติดตามกันต่อไปว่าตัวเกมจะออกมาในรูปแบบไหน
ที่มา - Bloomberg |
# แบงค์ชาติเตือน เงินคริปโตยังผันผวนสูง ไม่เหมาะใช้แทนเงินสด
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงข่าวให้ความเห็นว่าการนำสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin, Ethereum ที่ไม่ถือเป็นเงินตราตามกฎหมายมาใช้เป็นสื่อในการชำระค่าสินค้าและบริการ ยังมีลักษณะเป็นเพียงการแลกเปลี่ยน (barter trade) ระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลกับสินค้าและบริการที่ผู้ให้และผู้รับตกลงยอมรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องระหว่างกันเท่านั้น
รวมถึงการแลกเปลี่ยนนี้อาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัล การโจรกรรมทางไซเบอร์ และถูกใช้ในกระบวนการฟอกเงินได้การฟอกเงิน ธปท. จึงยังไม่สนับสนุนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางการชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ
ธปท. มีความเห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภทยังเป็นเพียงสินทรัพย์เพื่อการลงทุนเท่านั้น และจะประสานกับ ก.ล.ต. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อสาธารณชน ระบบเศรษฐกิจ และเสถียรภาพของระบบการเงินของประเทศได้
ธปท. ระบุช่วงท้ายแถลงว่ากำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาและพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency: CBDC) และแนวนโยบายกำกับดูแลการให้บริการทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ Stablecoin ที่มีเงินบาทหนุนหลัง และ Stablecoin ประเภทอื่น ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางในการชำระค่าสินค้าและบริการในรูปแบบดิจิทัลให้กับประชาชน รวมถึงจะรับฟังข้อคิดเห็นจากประชาชนและผู้เกี่ยวข้อง และแจ้งความคืบหน้าต่อไป
จากแถลงข่าวนี้ แม้ ธปท. ยังไม่เห็นด้วยกับการนำสินทรัพย์ดิจิทัลความผันผวนสูงเช่น BTC, ETH มาใช้เป็นตัวกลาง แต่มีความเป็นไปได้ว่าแนวทางของ ธปท. อาจมุ่งไปในการใช้ CBDC (เช่น บาทดิจิทัล) ผสานกับการออกแนวทางกำกับดูแล Stablecoin เพื่อให้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนได้ในอนาคต
ที่มา - ธนาคารแห่งประเทศไทย |
# แอป Google Meet เพิ่มฟิลเตอร์ลูกเล่นสนุกๆ ลดความเป็นทางการ
กูเกิลอัพเดต Google Meet เวอร์ชันแอปมือถือ เพิ่มลูกเล่นฟิลเตอร์ต่างๆ ให้เล่นระหว่างคุยวิดีโอคอล (คล้ายฟิลเตอร์หน้าตอนคุย Facebook Messenger) โดยจะมองเห็นปุ่มใหม่คือ "Styles" และ "Filters"
Styles เป็นเอฟเฟกต์สี เปลี่ยนอารมณ์ภาพ ส่วน Filters เป็นหน้ากากแบบ AR ฟีเจอร์ใหม่ใช้งานได้ทั้งแอปใน iOS และ Android และใช้งานได้ผ่าน Google Meet ใน Gmail ด้วย ลูกเล่นใหม่นี้ช่วยจูงใจให้ใช้ Google Meet เพื่อคุยกับเพื่อน คุยกับครอบครัว แทนที่จะใช้เพื่อการทำงานเพียงอย่างเดียว
ที่มา - Engadget |
# Moderna เริ่มทดสอบวัคซีน mRNA ไข้หวัดใหญ่ ตั้งเป้าวัคซีนตัวเดียว ป้องกันได้หลายโรค
บริษัท Moderna ประกาศเริ่มทดสอบวัคซีน mRNA สำหรับไวรัสไข้หวัดใหญ่ (influenza) แล้ว วัคซีนตัวนี้มีชื่อเรียกว่า mRNA-1010 (ส่วนวัคซีนโควิดชื่อ mRNA-1273) เริ่มเข้ากระบวนการทดสอบเฟส 1/2 กับชาวอเมริกันจำนวน 180 คน
Moderna ตั้งเป้าว่าวัคซีน mRNA-1010 จะสามารถป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A (H1N1, H3N2) และสายพันธุ์ B (Yamagata, Victoria) ได้
ไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นการระบาดตามฤดูกาล ที่แต่ละปีมีระดับความรุนแรงต่างกันไป วัคซีนไข้หวัดใหญ่ในปัจจุบันจึงต้องปรับสูตรใหม่ทุกปี โดยตัดสินใจล่วงหน้า 6-9 เดือน และมีประสิทธิภาพราว 40-60% ทำให้ Moderna ตั้งเป้าพิชิตข้อจำกัดนี้ด้วยวัคซีนแบบ mRNA ที่สามารถผสมวัคซีนกันเพื่อป้องกันไวรัสหลายๆ ตัวพร้อมกันได้เร็วกว่า
ในอนาคตเราอาจได้เห็นวัคซีน mRNA ที่สามารถป้องกันโรคทางเดินหายใจได้ทั้งไข้หวัดใหญ่, RSV รวมถึง SARS-CoV-2 ที่เป็นสาเหตุของโควิดด้วย
ที่มา - Moderna |
# รุ่นล่างแล้วไง Galaxy A10s ได้อัพเดต Android 11 แล้ว ได้แพตช์ความปลอดภัยนาน 4 ปีด้วย
Galaxy A10s มือถือรุ่นล่างๆ ของซัมซุงที่ออกขายในช่วงกลางปี 2019 โดยมาพร้อม Android 9 เริ่มได้รับอัพเดตเป็น Android 11 แล้วในบางประเทศ (ตามข่าวคือมาเลเซียและเวียดนาม)
การได้อัพเดตเป็น Android 11 ถือเป็นเรื่องน่าประทับใจของ Galaxy A10s ที่ราคาเปิดตัว 4,490 บาท แต่ก็จะเป็นการอัพเดต OS รอบสุดท้ายของ A10s แล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม A10s อยู่ในรายชื่อสินค้าที่ซัมซุงประกาศว่าจะอัพเดตแพตช์ความปลอดภัยให้นาน 4 ปี เช่นเดียวกับมือถือเรือธง
ที่มา - SamMobile |
# Minecraft ในเกาหลีใต้ บังคับล็อกอินบัญชี Microsoft เล่นได้เฉพาะคนอายุเกิน 19 ปี
ประเทศเกาหลีใต้มีกฎหมาย “Cinderella law” ห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปี เล่นเกมออนไลน์ช่วงเที่ยงคืนถึงหกโมงเช้า บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2011 แต่นโยบายของไมโครซอฟท์ในเกาหลีใต้ กลับตั้งข้อบังคับว่าผู้ที่จะสร้างบัญชี Microsoft หรือ Xbox Live ต้องมีอายุ 19 ขึ้นไป (โดยไม่ระบุสาเหตุแน่ชัด) และเมื่อนโยบายนี้นำมาใช้กับเกม Minecraft ทำให้ผู้เล่นต้องมีอายุเกิน 19 ปีตามไปด้วย (แม้ตัวเกมเองได้เรตติ้ง 12+ ในเกาหลีใต้ก็ตาม)
ก่อนหน้านี้ Minecraft เวอร์ชั่น Java ยังสามารถใช้ Mojang Account เพื่อล็อกอินเล่นได้อยู่ จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่หลัง Microsoft เริ่มบังคับให้ผู้เล่นต้องล็อกอินด้วย Microsoft Account ในเดือนธันวาคม 2020 เกม Minecraft ทุกเวอร์ชั่น จึงกลายเป็นเกมสำหรับผู้มีอายุ 19 ปีขึ้นไป และ Microsoft ถึงกับต้องเพิ่มคำเตือนเฉพาะประเทศเกาหลีใต้ไว้บนหน้าซื้อเกม
อ้างอิงจาก The Korea Herald ร่างกฎหมาย “Cinderella law” นี้ มีคนเกาหลีใต้เข้าชื่อคัดค้านแล้วกว่า 15,000 คน ด้วยเหตุผลที่ว่าเกาหลีใต้อาจเป็นประเทศเดียวในโลกที่ Minecraft กลายเป็นเกมสำหรับผู้ใหญ่
ส่วน Microsoft ชี้แจงกับ Gameindustry.biz ว่าทีมงานกำลังหาทางแก้ระยะยาวให้กับผู้เล่นที่มีอายุต่ำกว่า 19 ปีในเกาหลีใต้อยู่ และจะมีอัพเดตข้อมูลภายในปีนี้
ที่มา - The Korea Herald via Gamindustry.biz |
# OnePlus 9 บีบซีพียูเมื่อใช้งานบางแอป บริษัทระบุเพื่อช่วยประหยัดแบต
เว็บไซต์ Anandtech พบพฤติกรรมแปลกประหลาดของ OnePlus 9 Pro เมื่อรันเบนช์มาร์คบนบราวเซอร์เช่น Speedometer 2.0 และ JetStream 2 บนบราวเซอร์ที่ต่างกัน OnePlus 9 Pro กลับทำคะแนนได้สูงกว่าเมื่อใช้บราวเซอร์ Vivaldi แต่เมื่อทดสอบบน Chrome กลับได้คะแนนต่ำกว่าที่ควรมาก ก่อนจะพบว่า OnePlus 9 Pro ปิดการใช้งานแกนพลังงานสูง Cortex-X1 และจำกัดการใช้งาน Cortex-A78 เมื่อรันเบนช์มาร์คบน Chrome
AnandTech ค้นต่อ พบว่าโปรแกรม OnePlus Performance Service ตัวจัดการประสิทธิภาพของเครื่อง ที่พบได้ปกติในมือถือแอนดรอยด์ จะเลือกลดประสิทธิภาพเครื่องเมื่อเปิดใช้แอปบางแอป เช่น Chrome, Twitter, Zoom, WhatsApp, Facebook, Instagram, Snapchat, YouTube, Discord, Microsoft Office, Firefox, Samsung Internet หรือแม้แต่แอปต่างๆ ของ OnePlus เอง แต่ไม่มีผลเมื่อทดสอบเกม Genshin Impact คาดว่าน่าจะเป็นการปรับลดประสิทธิภาพแอปที่ไม่ได้ใช้กราฟฟิกหรือซีพียูเต็มที่มากนัก
แม้การปรับลดประสิทธิภาพเครื่องนี้อาจไม่กระทบการใช้งานทั่วไปจนถึงขนาดรู้สึกได้ นอกจากจะวางเทียบกับมือถือรุ่นอื่นที่ใช้ชิป Snapdragon 888 เหมือนกัน แต่การใช้รายชื่อแอปเพื่อจำกัดประสิทธิภาพเครื่อง แทนที่จะเป็นพฤติกรรมของแอป ก็ทำให้ Geekbench ถอด OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro ออกจากลิสต์เบนช์มาร์ค เพราะถือว่าเป็นการบิดเบือนประสิทธิเบนช์มาร์ค ที่ไม่สะท้อนการใช้งานจริง
XDA Developers ติดต่อไปยัง OnePlus ได้คำชี้แจงว่าการจำกัดประสิทธิภาพนี้ เป็นไปเพื่อการประหยัดพลังงานและลดความร้อน โดยปรับประสิทธิภาพของชิปประมวลผลให้เข้ากับความต้องการของแอปต่างๆ เช่น Chrome และมาจากคำแนะนำของผู้ใช้หลังเครื่องเปิดตัวในเดือนมีนาคม แต่ผลทดสอบ JetStream 2 ของ PhoneArena เมื่อ 24 มีนาคม OnePlus 9 Pro ก็ได้คะแนนต่ำกว่ามือถือชิป Snapdragon 888 รุ่นอื่นมากเช่นกัน แปลว่าการจำกัดประสิทธิภาพนี้ อาจมีมาตั้งแต่เดือนแรกที่เครื่องออกแล้ว
ยังไม่แน่ชัดว่า OnePlus จะเปลี่ยนวิธีปรับประสิทธิภาพหรือเพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้สามารถเปิด-ปิด การประหยัดพลังงานนี้ได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา - Anandtech, XDA Developers |
# Telenor ถอนตัวจากพม่า เตรียมขายหุ้นธุรกิจมือถือให้ M1 Group ระบุเพื่อความปลอดภัย
Telenor เตรียมขายหุ้นธุรกิจมือถือทั้งหมดในประเทศพม่า (Telenor Myanmar) ให้ M1 Group บริษัทสัญชาติเลบานอน ในราคา 105 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Telenor แจ้งเหตุผลของการถอนตัวว่าเหตุการณ์ในพม่าทำให้ Telenor ดูแลความปลอดภัยของพนักงานไปพร้อมๆ กับการทำตามระเบียบท้องถิ่นได้ยาก หลังก่อนหน้านี้รัฐบาลพม่าสั่งให้โอเปอร์เรเตอร์ทุกรายต้องติดตั้งระบบดักฟังข้อมูล และห้ามผู้บริหารเดินทางออกนอกประเทศ
ดีลนี้ตีมูลค่าของ Telenor Myanmar ที่ 600 ล้านดอลลาร์ กระบวนการจ่ายเงินจะแบ่งจ่ายบางส่วนทันทีและอีก 55 ล้านดอลลาร์จ่ายในอีก 5 ปีข้างหน้า M1 Group จะถือหุ้นทั้งหมดของ Telenor Myanmar และเป็นผู้ดำเนินธุรกิจต่อ ที่ผ่านมา Telenor เข้าไปเปิด Telenor Myanmar ตั้งแต่ปี 2014 และเริ่มมีกระแสเงินสดเป็นบวกตั้งแต่ปี 2017 รวมจ่ายเงินปันผลออกมาแล้วกว่า 3,200 ล้าน NOK (11,800 ล้านบาท)
ระหว่างนี้ Telenor จะยังถือ Telenor Myanmar เป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อการขายและการดำเนินงานที่ยกเลิก (asset held for sale and discontinued operations) โดยยอดขาดทุน-กำไร จะถูกนับในงบประมาณรวมของบริษัทอยู่
ที่มา - Telenor via Yahoo Finance |
# Konami ปลด Antoine Griezmann จากพรีเซนเตอร์ Yu-Gi-Oh! เพราะคลิปเหยียดคนญี่ปุ่น
Konami ประกาศปลด Antoine Griezmann นักฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส จากการเป็นพรีเซนเตอร์เกมและอนิเม Yu-Gi-Oh! เนื่องจากคลิปวิดีโอเหยียดเชื้อชาติคนญี่ปุ่น
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคลิปวิดีโอเก่าปี 2019 ที่สโมสรฟุตบอล Barcelona ไปทัวร์ญี่ปุ่น โดย Ousmane Dembele เพื่อนร่วมทีมของ Griezmann เรียกพนักงานโรงแรมชาวญี่ปุ่นมาช่วยตั้งค่าทีวีในห้องให้ เพราะพวกเขาต้องการเล่นเกม PES (ซึ่งก็เป็นเกมของ Konami) ในคลิปมีเสียงพูดของ Dembele เป็นภาษาฝรั่งเศส ล้อเลียนพนักงานว่า "หน้าตาน่าเกลียด" และถามว่า "ประเทศญี่ปุ่นมีเทคโนโลยีก้าวหน้าจริงหรือ" ในขณะที่ Griezmann ร่วมหัวเราะไปกับ Dembele ด้วย
คลิปนี้กลายเป็นประเด็นใหญ่ในญี่ปุ่น โดยซีอีโอของ Rakuten บริษัทญี่ปุ่นที่เป็นสปอนเซอร์ของสโมสร Barcelona ต้องออกมาเรียกร้องให้สโมสรขอโทษอย่างเป็นทางการ
ถึงแม้ว่า Griezmann ไม่ได้พูดอะไรในคลิปโดยตรง และเสียงวิจารณ์ส่วนใหญ่พุ่งไปที่ Dembele แต่การที่ Konami มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ Griezmann ผ่านแบรนด์ Yu-Gi-Oh! ทำให้บริษัทประกาศยกเลิกสัญญากับตัว Griezmann แล้ว และขอให้สโมสร Barcelona ที่อยู่ในเกมฟุตบอล PES ออกมาอธิบายด้วยเช่นกัน
ที่มา - Konami, Kotaku
ภาพ Antoine Griezmann ตอนโปรโมท Yu-Gi-Oh! |
# Samsung Galaxy S21 FE ผ่าน กสทช. จีนแล้ว หน้าจอ 6.4 นิ้ว แบตเตอรี่ 4,370 mAh
ซัมซุงยังไม่ประกาศวันเปิดตัว Samsung Galaxy S21 FE ที่แน่ชัด หลังมีข่าวลือว่าถูกเลื่อนไปเป็นไตรมาสที่ 4 ของปี จากเดิมที่น่าจะเปิดตัวในเดือนสิงหาคม โดยคาดว่าโทรศัพท์รุ่นนี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาชิปขาดแคลน แต่ล่าสุดซัมซุงก็ลงทะเบียน Galaxy S21 FE รุ่น SM G9000 กับ TENAA หรือ กสทช. ของประเทศจีนเรียบร้อยแล้ว โดยเอกสารลงทะเบียนเปิดเผยสเปกภายนอกบางส่วน
Galaxy S21 FE ตามข้อมูลของ กสทช. จีน ใช้หน้าจอ 6.4 นิ้ว รองรับ 5G มี Dual SIM, Dual Standby รัน Android 11 แบตเตอรี่เรทติ้ง 4,370 mAh ขนาดตัวเครื่อง 155x74.5x7.9 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x หนา) ซึ่งจะบางกว่า และสั้นกว่า Galaxy S20 FE ที่มีขนาด 159.8 x 74.5 x 8.4 มิลลิเมตร
คงต้องติดตามกันต่อไปว่า Galaxy S21 FE จะเปิดตัวเดือนไหนกันแน่ และข่าวลือสเปกภายใน เช่นจะมาพร้อมชิป Exynos 2100 ในบางประเทศ และ Snapdragon 888 ในตลาดอื่นๆ และมาพร้อมชาร์จเร็ว 45W จะเป็นจริงหรือไม่
ที่มา - SamMobile
ภาพเรนเดอร์ Galaxy S21 FE จาก @Onleaks |
# [Bloomberg] โจ ไบเดน สั่ง FTC ร่างกฎ Right-to-Repair ผู้บริโภคควรมีสิทธิ์นำอุปกรณ์ไปซ่อมที่อื่นได้
เมื่อโทรศัพท์ แท็บเล็ตหรืออุปกรณ์ใดๆ มีปัญหา แต่ถูกบังคับให้ซ่อมในจุดที่ผู้ผลิตให้การรับรองเท่านั้น ผลปรากฏว่าค่าซ่อมนั้นแพงกว่าที่อื่น ล่าสุด โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมแก้ปัญหานี้ Bloomberg รายงานว่า ไบเดนจะให้คณะกรรมการด้านการค้าของสหรัฐ (Federal Trade Commission หรือ FTC) ร่างกฎหมาย Right-to-Repair
เป้าหมายของกฎ Right-to-Repair คือ หยุดผู้ผลิตจากการจำกัดความสามารถของผู้บริโภคในการซ่อมผลิตภัณฑ์ในร้านค้าอิสระหรือซ่อมด้วยตนเอง ส่วน FTC จะรับผิดชอบการออกแนวทางและขอบเขตของคำสั่ง ซึ่งคาดว่าจะมีผลต่อผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือและผู้รับเหมาของกระทรวงกลาโหม คาดว่าการลงนามคำสั่งของไบเดนจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่วันข้างหน้า
หากมีการลงนามคำสั่งจริง คาดว่าจะเกิดกระแสต้านจากบริษัทผู้ผลิต ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย การติดตั้งดัดแปลงอุปกรณ์ไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้เกิดอันตรายภายหลังได้
สหรัฐฯ ไม่ได้เป็นเพียงประเทศเดียวที่ผลักดันให้มี Right-to-Repair คณะกรรมาธิการยุโรปยังประกาศแผนการที่จะกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ ครอบคลุมสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อป นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมมองว่ากฎนี้สามารถยับยั้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ เนื่องจากผู้บริโภคจะไม่ทิ้งอุปกรณ์ที่ชำรุดอีกต่อไป เนื่องจากมีค่าซ่อมสูง
Photo by Kristin Hardwick on StockSnap
ที่มา - Android Community |
# กลุ่มอัยการ 36 รัฐ และวอชิงตัน ดีซี ฟ้องกูเกิล ผูกขาดผ่านการควบคุม Play Store
กูเกิลเจอฟ้องใหญ่เรื่องผูกขาดอีกครั้ง กลุ่มอัยการ 36 รัฐและวอชิงตัน ดี.ซี. ฟ้องกูเกิลคดีผูกขาดร้านค้าแอปบนมือถือแอนดรอยด์ ที่กูเกิลบังคับให้นักพัฒนาแอปทั้งหมดที่ใช้ Google Play Store ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น 30% สำหรับการขายสินค้าหรือบริการดิจิทัล
การฟ้องร้องเกิดขึ้นหลังจากกูเกิลประกาศลดค่าธรรมเนียมสำหรับนักพัฒนาบน Play Store เหลือ 15% สำหรับรายได้ 1 ล้านดอลลาร์แรกและสำหรับแอปกลุ่ม Media วิดีโอ เพลง อีบุ๊ก แต่ในขณะเดียวกัน กูเกิลเองก็ออกกฎแอปที่จำหน่ายผ่าน Google Play จะถูกบังคับให้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าดิจิทัล (in-app purchase) ผ่านระบบของกูเกิลอย่างเข้มงวดขึ้น โดยมีผล 30 กันยายนนี้
ภาพจากกูเกิล
ถือเป็นคดีผูกขาดล่าสุดที่กูเกิลเจอ หลังก่อนหน้านี้มีการฟ้องร้องจาก กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯและ 14 รัฐที่ยื่นฟ้องในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเน้นที่ความพยายามของกูเกิลในการครอบครองตลาดค้นหาบนมือถือ และยังไม่รวมคดีผูกขาดอื่นๆ ที่กูเกิลเจอนอกสหรัฐฯ
ในการพิจารณาของวุฒิสภาในเดือนเมษายนที่ผ่านมา กูเกิลปกป้องตัวเองว่า ค่าคอมมิชชั่นสอดคล้องกับสิ่งที่เจ้าอื่นทำในอุตสาหกรรมเดียวกัน เป็นการช่วยจัดหาเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา และการอัปเดตใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มนักพัฒนาบนแอนดรอยด์ ที่ผ่านมาผู้ใช้งานยังมีทางเลือกหากอยากจะโหลดแอปจากร้านค้าอื่น
ที่มา - Politico, Engadget |
# Mmhmm สตาร์ทอัพโดยผู้ก่อตั้ง Evernote รับเงินทุน 100 ล้านดอลลาร์ นำโดย SoftBank
Mmhmm สตาร์ทอัพชื่อแปลก ที่ก่อตั้งโดย Phil Libin ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอ Evernote ประกาศรับเงินเพิ่มทุนรอบใหม่อีกถึง 100 ล้านดอลลาร์ จากกลุ่มผู้ลงทุนนำโดยกองทุน Vision Fund ของ SoftBank และมี Sequoia Capital, Mubadala Capital, Human Capital, World Innovation Lab กับอีกหลายกองทุนร่วมลงทุน ทำให้บริษัทได้รับเงินทุนรวมแล้ว 136 ล้านดอลลาร์
Libin บอกว่าเมื่อตอนทำ Evernote เขามองว่าสมาร์ทโฟนคือสิ่งที่มาปฏิวัติการใช้ชีวิตของผู้คน ส่วนตอนนี้เขาเชื่อว่าการสนทนาผ่านวิดีโอจะเป็นสิ่งที่มาเปลี่ยนแปลงผู้คน ผลิตภัณฑ์ของ Mmhmm คือเครื่องมือปรับแต่งการนำเสนอผ่านวิดีโอคอลให้มีลูกเล่นที่น่าสนใจมากขึ้น มีสองฟีเจอร์สำคัญคือการปรับเปลี่ยนฉากหลัง และการแทรกสไลด์มานำเสนอ ปัจจุบันเฉพาะรองรับบนคอมพิวเตอร์ แต่จะเพิ่มเครื่องมือบนสมาร์ทโฟนในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
Mmhmm ออกแบบบนแนวคิดให้การนำเสนอระหว่างผู้พูดและสไลด์ประกอบการบรรยายกลมกลืนกัน โดยยกตัวอย่างเหมือนการดูรายการข่าว ตอนนี้รองรับการทำงานร่วมกับเครื่องมือประชุมผ่านวิดีโอยอดนิยมครบทุกตัวทั้ง Zoom, Cisco Webex Meetings, YouTube, Twitch และ Google Meet
ที่มา: Bloomberg และ Mmhmm |
# Wise บริการโอนเงินระหว่างประเทศ เข้าตลาดหุ้นลอนดอนแล้ว มูลค่ากิจการ 3.5 แสนล้านบาท
Wise บริษัทฟินเทคจากอังกฤษ หรือชื่อเดิม TransferWise ผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ ได้นำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนแล้วเมื่อคืนนี้ หลังจากเปิดเผยเอกสารไฟลิ่งก่อนหน้านี้ โดยเปิดการซื้อขายด้วยราคา 8 ปอนด์ต่อหุ้น ทำให้บริษัทมีมูลค่ากิจการ 8 พันล้านปอนด์ หรือราว 3.5 แสนล้านบาท
Wise ใช้วิธีเข้าตลาดหุ้นแบบ Direct Listing นั่นคือไม่มีการขายหุ้นไอพีโอเพิ่มทุนเพื่อกำหนดราคาหุ้นเริ่มต้น แต่นำหุ้นทั้งหมดที่มีอยู่เดิมเข้าซื้อขาย และให้ตลาดกำหนดราคาเอง แบบเดียวกับ Spotify
บริษัทก่อตั้งในปี 2010 โดย Taavet Hinrikus และ Kristo Käärmann ซึ่งเป็นคนเอสโตเนีย มีแรงจูงใจจากปัญหาค่าธรรมเนียมที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน ในการโอนเงินระหว่างอังกฤษกับเอสโตเนีย ทั้งสองคนจึงหาวิธีใหม่ในการโอนเงินข้ามประเทศ เพื่อให้ได้อัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสมที่สุด
Wise เป็นบริษัทที่มีกำไร โดยผลประกอบการปีการเงิน 2021 Wise มีกำไรสุทธิ 30.9 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีการเงิน 2020 ส่วนรายได้เพิ่มขึ้น 39% เป็น 421 ล้านปอนด์
ที่มา: CNBC |
# อินเทลดึงอดีตหัวหน้าทีมออกแบบ Skylake กลับมาคุมทีมซีพียูฝั่งไคลเอนต์
อินเทลยุคใหม่ภายใต้การนำของ Pat Gelsinger กำลังไล่ดึงตัววิศวกรระดับหัวกะทิกลับมายังบริษัท ล่าสุดประกาศดึง Shlomit Weiss อดีตหัวหน้าทีมออกแบบ Sandy Bridge และ Skylake กลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมออกแบบชิปสายคอนซูเมอร์ทั้งหมด
เส้นทางชีวิตของ Weiss น่าสนใจตรงที่เธอเป็นผู้หญิงแถวหน้าของวงการออกแบบซีพียู เธอเป็นวิศวกรชาวอิสราเอลที่ทำงานกับอินเทลมาตั้งแต่ปี 1989 โดยมีตำแหน่งสุดท้ายเป็นหัวหน้าศูนย์พัฒนาซีพียูฝั่งศูนย์ข้อมูล ในปี 2017 จึงย้ายงานไปพัฒนาหน่วยประมวลผลเครือข่ายให้ Mellanox ในอิสราเอล ก่อนที่ Mellanox ถูก NVIDIA ซื้อกิจการในปี 2019 ทำให้เธอย้ายมาเป็น Senior Vice President Silicon Engineering ให้ NVIDIA ด้วย
การกลับมาที่อินเทลรอบนี้ เธอจะรับตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ร่วมของ Design Engineering Group (DEG) ร่วมกับอดีตพนักงานของอินเทลอีกคน Sunil Shenoy ที่ถูกดึงกลับมาอีกครั้ง
ผลงานของ Weiss ในช่วง Skylake ยิ่งถือว่าน่าประทับใจเมื่อเวลาผ่านไปจากนั้นอีกหลายปี เพราะอินเทลติดๆ ขัดๆ เรื่องการข้ามผ่าน 14 นาโนเมตร ทำให้สถาปัตยกรรม Skylake ที่ออกในปี 2015 (6th Gen) ถูกนำมาใช้เป็นอาวุธขัดตาทัพต่อมาอีกนาน (Comet Lake ที่ออกในปี 2019 นับเป็น 10th Gen ก็อิงอยู่บน Skylake) และยังสามารถใช้ทานกระแส Ryzen ได้นานกว่าที่หลายๆ คนคาดไว้
ที่มา - Tom's Hardware |
# เหรียญคริปโตอิงราคาหลักทรัพย์ (synthetic stock) สินค้าคริปโตที่อาจมาแข่งกับตลาดหุ้นในอนาคต
โลก DeFi เริ่มมีการเทรดเหรียญ synthetic stock หรือเหรียญคริปโตอิงราคาหลักทรัพย์ มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบนแพลตฟอร์ม เช่น Mirror Protocol และ Synthetix โดยเหรียญ synthetic stock เหล่านี้ เป็นเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นโดยอิงมูลค่าจากจริงของหลักทรัพย์ เช่นหุ้น Apple หรือ Tesla แต่กระบวนการซื้อขายไม่ต้องผ่านการกำกับดูแลเหมือนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แต่อย่างใด
หุ้นเสมือนในโลก DeFi จะทำงานได้ต้องมีคนวางหลักทรัพย์ก้อนหนึ่งเพื่อเตรียมรับซื้อหุ้นคืน โดยกรณีของ Mirror ผู้ออกหุ้นต้องวางเงิน 1.5 เท่าตัวของมูลค่าหุ้นที่จะเปิดให้ซื้อขายด้วยหลักทรัพย์เช่น stablecoin จากนั้นระบบจะเทียบราคาหุ้นในบล็อคเชน กับราคาหุ้นในโลกความเป็นจริงที่ได้จาก price oracle
หากราคาในบล็อคเชนสูงกว่าโลกภายนอกก็จะจูงใจให้มีคนสร้างหุ้น (mint) หุ้นออกมาขาย หรือหากหุ้นในบล็อคเชนถูกกว่าก็สามารถขายหุ้นเสมือนคืนเป็นหลักทรัพย์ที่ผู้ออกหุ้นเสมือนวางไว้ ทำให้ภาพรวมแล้วหุ้นเสมือนจะมีราคาใกล้เคียงกับหุ้นจริง
กระบวนการทั้งหมดจะเป็นการบริหาร อุปสงค์-อุปทาน เพื่อรักษาระดับราคาหุ้นเสมือน ให้ใกล้เคียงกับหุ้นจริงไปในตัว โดยราคาอาจต่างกันได้ตั้งแต่หลักไม่กี่เพนนี ไปจนถึงหลายดอลลาร์ ตามแต่ช่วง และทั้งหมดนี้ทำงานอยู่บนระบบบล็อกเชน
แพลตฟอร์มเช่น Mirror Protocol มีรายได้จากการที่มูลค่าเหรียญของแพลตฟอร์ม (MIR token) เพิ่มขึ้น ส่วนค่า fee จากการมิ้นต์และเบิร์นเหรียญ จะถูกนำกลับไปเป็นรางวัลให้ผู้ใช้ที่ฝากเหรียญต่างๆ ไว้กับแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
แม้ปัจจุบันมูลค่าตลาดของเหรียญหุ้นเสมือน ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดของหุ้นจริง เช่นเหรียญ Mirror Apple (mAAPL) ที่มีมูลค่าตลาดราว 34 ล้านดอลลาร์ เทียบกับหุ้น AAPL จริง ที่มีมูลค่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ แต่สถาบันการเงินเช่นกองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Arrington XRP Capital ก็จับตามองและให้การสนับสนุน Mirror Protocol โดยมองว่าเหรียญสินทรัพย์เสมือนนี้ เป็นม้าโทรจันที่โลก DeFi จะใช้แทรกตัวเข้ามาในตลาดหลัก
หน่วยงานภาครัฐ อาจเข้ามาจับตามองตลาดหุ้นเสมือนที่ใช้ stablecoin เป็นสินทรัพย์ค้ำประกันมากขึ้น หลังเกิดเหตุการณ์ stablecoin สกุล IRON ของ Iron Finance ที่ใช้เหรียญ TITAN ของเว็บเอง ค้ำประกันมูลค่าเหรียญ IRON ไว้ 25% แต่เหรียญ TITAN กลับสูญเสียมูลค่าจนเหลือใกล้เคียงกับ 0 ส่งผลให้ IRON เหลือมูลค่าไม่ถึง 1 ดอลลาร์ไปด้วย ซึ่ง Mark Cuban นักลงทุนเจ้าของทีมบาสเก็ตบอล Dallas Mavericks ผู้เคยถือเหรียญ IRON และน่าจะสูญเสียเงินไปพอสมควร ก็ออกมาเรียกร้องให้รัฐเข้ามาควบคุมตลาด stablecoin เช่นกัน
ส่วน Joseph Saluzzi หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Themis Trading บริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำของสหรัฐ ก็มองว่าเรื่องนี้ (synthetic stock) อาจมีปัญหากับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) สหรัฐได้ เพราะการเทรดหุ้นเสมือนที่อยู่นอกเหนือการจัดการ อาจส่งผลต่อนักลงทุนในตลาดหลัก และตัว SEC เอง มีบทบาทและหน้าที่ปกป้องนักลงทุนในตลาดหลัก
ตัวอย่างราคาเหรียญหุ้นเสมือน บนแพลตฟอร์ม Mirror Protocol
ฝั่ง Do Kwon เจ้าของ Terraform Labs ผู้ก่อตั้งบล็อกเชน Terra และ Mirror Protocol ระบุว่าตัวเขายังไม่เคยคุยกับหน่วยงานรัฐ, หน่วยงานของ NASDAQ หรือกองทุนใดๆ ที่ถูกนำมาทำเหรียญเสมือน แต่เขามองว่าการพยายามจะเข้ามาหยุดตลาดคริปโตบนบล็อกเชนที่ทำงานด้วยโค้ดแบบโอเพ่นซอร์ส และมีผู้ใช้อยู่ทั่วโลก คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
ทุกวันนี้กระดานขายหุ้นเสมือนแบบ DeFi มีมูลค่าสินทรัพย์วางอยู่ในกระดาน (total value locked - TVL) สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น Mirror Protocol ปัจจุบันมี TVL สูงถึง 1.85 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ Synthetix มี TVL ที่ 1.74 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบสามเท่าตัว และกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
คำชี้แจง: บทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล และใช้วิจารณญาณก่อนการลงทุน
ที่มา - Bloomberg |
# TikTok ทดสอบฟีเจอร์ Shoutouts ให้จ่ายเพื่อขอวิดีโอบางตัวได้ เช่นวิดีโออวยพรวันเกิด
ถนนทุกสายมุ่งสู่ครีเอเตอร์ TikTok ทดสอบฟีเจอร์ Shoutouts ให้จ่ายเพื่อขอวิดีโอบางตัวได้ ครีเอเตอร์สามารถตั้งราคาได้เอง เริ่มทดสอบใช้งานในบางประเทศเช่น ตุรกี ดูไบ
ปกติ TikTok มีฟังก์ชั่นจ่ายทิปให้ครีเอเตอร์อยู่แล้ว ฟีเจอร์ใหม่จะเป็นอีกช่องทางรายได้เสริมสำหรับคนที่มีแฟนคลับเหนียวแน่น พื้นที่ที่ได้รับการทดสอบใช้งานจะมองเห็นปุ่ม Request เมื่อคลิกเข้าไปแล้วระบบจะให้จ่ายเงิน แล้วครีเอเตอร์มีเวลาสามวันในการกดยอมรับ จากนั้นผู้ใช้จะได้รับวิดีโอในข้อความส่วนตัวภายในประมาณหนึ่งสัปดาห์
ยังไม่ชัดเจนว่าต้องมีผู้ติดตามเท่าไรถึงจะเปิดใช้งาน Shoutouts อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของ Shoutouts ไม่น่าจะเป็นเนื้อหาผู้ใหญ่แบบ OnlyFans เพราะตัวแพลตฟอร์มมีเด็กๆ ใช้งานเยอะ แต่อาจเป็นวิดีโออวยพรวันเกิด หรือวิดีโอที่ขอให้พูดอะไรบางอย่างในโอกาสพิเศษ
ที่มา - BuzzFeed, Engadget |
# WeChat ลบบัญชีนักศึกษา LGBT หลายราย บางรายพบว่าเนื้อหาหายไปหมด
Reuters รายงานว่ามีนักศึกษามหาวิทยาลัยที่เป็น LGBT หลายรายพบว่าบัญชี WeChat ของตัวเองถูกลบ บางรายระบบแจ้งว่าทำผิดกฎเนื้อหาทางอินเทอร์เน็ต บางรายพบว่าเนื้อหาต่างๆ ของตัวเองถูกลบออกหมด ทาง WeChat ยังไม่ออกมาระบุชัดเจนว่าลบด้วยเหตุใด นอกเนื้อจากเรื้อหาผิดกฎ
จีนไม่เปิดกว้างเรื่องเพศมากนัก และยังไม่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม เนื้อหาเกี่ยวกับการรักร่วมเพศก็ถูกเซนเซอร์ตามแพลตฟอร์มโซเชียลอยู่เรื่อยๆ เช่น Weibo ครั้งหนึ่งเคยลบเนื้อหาเลสเบี้ยนออก แพลตฟอร์มชุมชนออนไลน์ Zhihu เซ็นเซอร์หัวข้อเกี่ยวกับเพศและอัตลักษณ์ เป็นต้น
ที่มา - Reuters |
# Huawei เปิดตัว Nova 8i ชิป Snapdragon 662 ชาร์จเร็ว 66W รัน Android 10
Huawei เปิดตัวมือถือ Huawei Nova 8i มือถือรุ่นกลาง หน้าจอ LCD 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รัน Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 11 ยังไม่เปลี่ยนไปใช้งาน HarmonyOS แต่ไม่มีแอปจาก Google เช่นเคย แบตเตอรี่ 4300mAh ชาร์จเร็วถึง 66W และมีสเปกภายในดังนี้
ชิป Snapdragon 662
แรม 6GB/8GB
หน่วยความจำภายใน 128GB
กล้องหน้า 16MP
กล้องหลัง 4 ตัว กล้องหลัก 64MP, กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP, กล้องมาโคร 2MP และเซ็นเซอร์วัดระยะ 2MP
แบตเตอรี่ 4300mAh ชาร์จเร็ว 66W ชาร์จจาก 0 ถึง 60% ได้ใน 17 นาที ชาร์จเต็มได้ใน 38 นาที
รัน Android 10 ครอบด้วย EMUI 11
Huawei Nova 8i มีสามสีคือ Moonlight Silver, Interstellar Blue และ Starry Black เปิดให้พรีออเดอร์ในมาเลเซียแล้วตั้งแต่ 6 ถึง 21 กรกฎาคม 2021 รุ่น 8GB ความจุ 128GB ราคา 1,299 ริงกิตมาเลเซีย (ราว 10,045 บาท)
ที่มา - Huawei |
# แอร์เอเชียดิจิทัลเข้าซื้อ Gojek ไทย ผนวกเข้ากับแอปใหม่ airasia super app จะเปิดตัวในไทยเร็วๆ นี้
แอร์เอเชียดิจิทัล หน่วยธุรกิจด้านดิจิทัลภายใต้กลุ่มแอร์เอเชีย ประกาศเข้าซื้อ Gojek บริการเรียกรถในส่วนของประเทศไทย บริการต่างๆ ของ Gojek (GoRide, GoFood, GoSend) รวมถึงบริการการชำระเงินผ่าน GoPay สำหรับริการต่างๆ ของ Gojek จะยังคงให้บริการต่อจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 และแอร์เอเชียกำลังเตรียมการเปิดตัวแอปใหม่ในไทยคือ airasia super app เร็วๆ นี้
ทาง Gojek แนะด้วยว่าให้ถอนเงินออกจากวอลเลต ภายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ โดยจะมีการปิดระบบการเติมเงินเข้าอีวอลเลตตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม
โทนี่ เฟอร์นันเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแอร์เอเชีย กล่าวว่า การประกาศในวันนี้คือ การเริ่มต้นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวอย่างยิ่งใหญ่กับ Gojek โดยเรามีระบบนิเวศธุรกิจดิจิทัลรวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการด้านไลฟ์สไตล์ที่ไม่ใช่ของสายการบินกว่า 15 รายการบนแพลตฟอร์มในมาเลเซีย ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้กลุ่มแอร์เอเชียก้าวขึ้นไปอีกขั้น
ไอรีน โอมาร์ ประธานแอร์เอเชียดิจิทัล กลุ่มแอร์เอเชีย ให้ภาพรวมของกลุ่มดิจิทัลของแอร์เอเชียว่าประกอบด้วยบริษัทดิจิทัลหลัก 3 แห่ง ได้แก่ “airasia super app” แพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์สำหรับการท่องเที่ยว อีคอมเมิร์ซ บริการทางการเงิน บริการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์พืชผลทางการเกษตรที่ขนส่งตรงจากฟาร์มผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพและการศึกษา, “Teleport” บริษัทร่วมทุนด้านการขนส่งและลอจิสติกส์และธุรกิจฟินเทค “BigPay” ที่กำลังก้าวขึ้นเป็นรายแรกของภูมิภาคในฐานะผู้ให้บริการด้านธุรกรรมธนาคารแบบเสมือน (Virtual Bank) โดยอนาคตเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น เดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย เพื่อเปิดรับยุคดิจิทัล
ที่มา - Gojek, Brandinside |
# ไมโครซอฟท์หยุดพัฒนา SQL Server สำหรับ Windows Container
ไมโครซอฟท์ประกาศหยุดโครงการ SQL Server on Windows Containers ที่เปิดตัวเมื่อปี 2017 และค้างอยู่ในสถานะเบต้าโดยไม่ได้ออกมาเป็นโครงการเพื่อการค้าจริงจัง โดยหลังจากนี้ตัวอิมเมจใน Docker Hub จะถูกลบทิ้ง
แม้ว่า SQL Server จะถูกออกแบบมาเพื่อทำงานบนวินโดวส์เป็นหลัก แต่การใช้งานในกลุ่มคอนเทนเนอร์ก็นิยมอิมเมจลินุกซ์มากกว่า ตัวเลขจาก Docker Hub ระบุว่าอิมเมจ SQL Server on Windows Container นั้นมีอัตราการ pull เพียงประมาณ 1 ล้านครั้ง เทียบกับ SQL Server on Linux ที่มีอัตราการ pull มากกว่า 50 ล้านครั้งแล้ว
SQL Server on Linux จะขาดฟีเจอร์จากรุ่นวินโดวส์ไปจำนวนหนึ่ง เช่น database mirroring, merge replication, managed backup
การยกเลิกการซัพพอร์ต SQL Server ครั้งนี้สร้างคำถามต่อ Windows Container โดยรวมที่อาจจะไม่ได้รับความนิยมนัก แพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์เอง เช่น .NET ก็รองรับลินุกซ์ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ลูกค้าองค์กรอาจจะเลือกคอนเทนเนอร์ลินุกซ์เหมือนกับคอนเทนเนอร์อื่นๆ มากกว่า
ที่มา - The Register |
# ทวิตเตอร์เผยแนวทางฟีเจอร์ใหม่เพื่อความเป็นส่วนตัว ปิดไม่ให้คนค้นหาชื่อเราเจอได้ ลดคุกคามออนไลน์
ทวิตเตอร์เผยคอนเซปต์ฟีเจอร์เพื่อความเป็นส่วนตัว 4 อย่าง หลักๆ คือควบคุมได้ว่าใครเห็นโพสต์บนไทม์ไลน์ของเราได้บ้าง และเปิดรับความคิดเห็นจากผู้ใช้งานด้วย
ฟังก์ชั่นแรกคือ เมื่อผู้ใช้งานที่ล็อกบัญชีตัวเองไว้ แต่อยากเขียนคอมเม้นท์ตอบโพสต์หรือ Reply คนอื่น ระบบจะเตือนให้รู้ว่าเจ้าของบัญชีจะมองไม่เห็นคอมเม้นท์นี้ พร้อมปุ่มสลับบัญชีไปเป็นสาธารณะ เพื่อให้ข้อความของเราถูกมองเห็นได้
สำหรับผู้ใช้งานที่มีบัญชีมากกว่าหนึ่ง อาจเกิดความผิดพลาดอย่างการลืมสลับบัญชีเวลาโพสต์บนไทม์ไลน์ได้ ระบบจะแสดงปุ่มให้สลับบัญชีเวลาโพสต์ รวมถึงชื่อบัญชีเราเล็กๆ ด้วยเพื่อป้องกันความสับสน ช่วยให้สลับได้ไวขึ้น
เพิ่มเมนูเฉพาะสำหรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว เลือกได้ว่าเนื้อหาใดที่อยากตั้งค่าให้เป็นส่วนตัวมากขึ้น เช่นเปิดให้ทุกคนมองเห็นกิจกรรมของเราได้ แต่เฉพาะเพื่อนเท่านั้นที่แท็กรูปหาเราได้ เป็นต้น
ตั้งค่าการค้นพบบัญชีเราได้ ไม่ให้คนอื่นหาเราเจอจากการพิมพ์ username เป็นประโยชน์เมื่อชื่อของเราตกเป็นเป้าการโจมตีบนออนไลน์ รวมถึงไม่ให้ระบบแนะนำบัญชีเราไปยังรายชื่อที่แนะนำให้ติดตาม และยังตั้งได้ด้วยว่าต้องการปิดตัวเองจากการค้นหาของคนอื่นกี่วัน กี่เดือน
ทวิตเตอร์ในตอนนี้ทดลองทำอะไรใหม่หลายอย่าง ก่อนหน้านี้คือฟีเจอร์ Trusted Friends, Reply Language Prompts หลักๆ ก็เพื่อให้เป็นพื้นที่ใช้งานปลอดภัยขึ้น
ที่มา - ทวิตเตอร์ |
# Tencent เตรียมใช้ facial recognition จำกัดเวลาเล่นเกมของเยาวชน ตามระเบียบรัฐบาลจีน
Tencent เตรียมใช้ระบบ “Midnight Patrol” เทคโนโลยีระบุตัวตนด้วยใบหน้า สำหรับตรวจสอบว่าผู้เล่นเป็นเยาวชนหรือไม่ โดยผู้เล่นทุกคนต้องสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนก่อนเล่นเกม และผู้เล่นที่อายุต่ำกว่า 18 ปีจะถูกล็อกเอ้าท์ออกจากเกมอัตโนมัติหากเล่นเกมในเวลา 22.00 น. ถึง 8.00 น. ตามที่รัฐบาลจีนสั่งห้าม
รัฐบาลจีนเริ่มควบคุมการเล่นเกมในประเทศมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2018 และในปี 2019 ก็ออกกฎห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมช่วง 22.00 น. ถึง 8.00 น.
นอกจากนี้ยังจำกัดยอดเงินสำหรับใช้จ่ายกับ microtransaction ต่อเดือนไว้ที่ 28-57 ดอลลาร์ตามช่วงอายุ รวมถึงห้ามประชาชนทุกคนเล่นเกมที่มีเนื้อหาทางเพศที่โจ่งแจ้ง, ภาพสยดสยอง, ความรุนแรง และการพนัน
เบื้องต้น Tencent เตรียมนำระบบระบุตัวตนด้วยใบหน้า ในเกมกว่า 60 เกม รวมถึง Glory of Kings (RoV) และ Peace Elite (PUBG Mobile) แต่ยังไม่รวม League of Legends หลัง Tencent เข้าซื้อ Riot Games ในปี 2015 ก่อนพัฒนาเวอร์ชั่นมือถือ ออกมาเป็น League of Legends: Wild Rift เปิดตัวในปี 2019
ที่มา - Digital Trends |
# โดนล้อมไปเรื่อยๆ Binance รับโอนเงินจากเครือข่ายจ่ายเงิน SEPA ของ EU ไม่ได้แล้ว
ข่าวการโดนกำกับดูแลของเว็บเทรดคริปโต Binance ยังออกมาอย่างต่อเนื่อง (ข่าวโดนหน่วยงานกำกับของอังกฤษแบน, ธนาคาร Barclays ห้ามโอนเงินเข้า, ก.ล.ต.ไทยเอาผิด)
ล่าสุด Financial Times รายงานว่า Binance ส่งอีเมลแจ้งผู้ใช้งานว่าขอหยุดการรับโอนเงินเข้าจาก Single Euro Payments Area (SEPA) เครือข่ายการจ่ายเงินของยุโรป โดยไม่ระบุสาเหตุแน่ชัด แต่ก็คาดกันว่าน่าจะมาจากนโยบายของฝั่ง SEPA (การถอนเงินจาก Binance มายัง SEPA ยังทำได้)
SEPA เป็นโครงการของสหภาพยุโรป ที่ต้องการทำเครือข่ายการจ่ายเงิน (payment network) อันเดียวครอบคลุมทั้งทวีปยุโรป ใช้กับประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิก EU อย่างอังกฤษ นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ได้ด้วย
การที่ Binance ไม่สามารถทำธุรกรรมกับ SEPA ได้โดยตรง ย่อมส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของ Binance ไม่น้อย แม้ในทางปฏิบัติแล้ว ลูกค้ายังสามารถจ่ายเงินให้ Binance ผ่านวิธีการอื่นๆ (เช่น บัตรเครดิต) ได้ก็ตาม
ที่มา - Financial Times
ภาพจาก @Binance |
# Sony เตรียมขาย SRS-NB10 หูฟังแบบ neckband รุ่นใหม่ สำหรับคนทำงานจากบ้าน
Sony เตรียมออกหูฟังรุ่น SRS-NB10 หูฟังแบบ neckband หรือแบบวางบนคอ เดือนกันยายนนี้ ในราคา 150 ดอลลาร์ (ราว 4,850 บาท) เน้นเพิ่มความสบายให้คนทำงานจากบ้าน ให้ไม่ต้องใส่หูฟังพร้อมไมค์แบบฟุลไซส์ หรือยัดหูฟังไว้ในหูเป็นระยะเวลานาน
SRS-NB10 ทำงานได้ 20 ชั่วโมง ชาร์จผ่าน USB-C 10 นาที ใช้เพิ่มได้ 1 ชั่วโมง รองรับ Bluetooth Multipoint เชื่อมกับมือถือและคอมพิวเตอร์ไว้พร้อมกัน และสลับไปมาได้ มีไมคโครโฟน beam-forming สองข้างพร้อมปุ่ม mute และกันน้ำ IPX4
Sony เคยผลิตหูฟังแบบวางบนคอแล้วตั้งแต่ปี 2019 ในชื่อรุ่น SRS-WS1 แต่มีขนาดใหญ่กว่า แพงกว่า (ราคาเปิดตัว 300 ดอลลาร์) และต้องใช้งานคู่กับตัวรับของ Sony เอง ไม่รองรับ Bluetooth ตัว SRS-NB10 นี้จึงอาจเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงคนทั่วไปมากกว่า
Sony ไม่ใช่แบรนด์แรกที่ทำหูฟังแบบวางบนคอ แบรนด์ลำโพง/หูฟังอย่าง Bose ก็เคยทำ SoundWear Companion speaker ที่เป็นหูฟังบลูทูธวางบนคอ ตั้งแต่ปี 2017 ในราคา 299 ดอลลาร์ ส่วน JBL ก็ทำ JBL Soundgear หูฟังวางบนคอ รองรับบลูทูธ ในปี 2020 ราคาราว 120 ดอลลาร์เช่นกัน
ที่มา - Digital Trends |
# Amazon เปิดซอร์สเอนจินเกม Lumberyard เป็น Open 3D Engine, ยกให้ Linux Foundation
Amazon ประกาศโอเพนซอร์สเอนจินเกม Lumberyard ของตัวเอง โดยใช้ชื่อโครงการใหม่ว่า Open 3D Engine (O3DE) และยกให้อยู่ในการดูแลของ Linux Foundation
Linux Foundation จะตั้งองค์กรลูกชื่อ Open 3D Foundation ขึ้นมารับผิดชอบการพัฒนา Open 3D Engine โดยมีบริษัทอื่นๆ เข้าร่วมอีกเป็นจำนวนมาก เช่น Adobe, Here, Huawei, Intel, Niantic, Red Hat และบริษัทเกมอีกจำนวนหนึ่ง
ตัวเอนจิน Lumberyard พัฒนาต่อมาจาก CryEngine ของบริษัท CryTek อีกทีหนึ่ง เดิมทีแจกซอร์สโค้ดอยู่แล้ว แต่เงื่อนไขการใช้งานค่อนข้างจำกัด ประกาศรอบนี้คือปรับสัญญาอนุญาตเป็น Apache License 2.0 ที่เปิดกว้างขึ้นมาก รวมถึงยกให้องค์กรกลางดูแลแทน การพัฒนาใช้ได้ทั้งภาษา C++, Lua และ Python ตอนนี้ซอร์สโค้ดดาวน์โหลดได้จาก GitHub
ที่ผ่านมายังมีเกมที่ใช้ Lumberyard ไม่เยอะนัก มีเฉพาะเกมของ Amazon เองกับเกมค่ายอื่นๆ อีกเล็กน้อยคือ Star Citizen
การเปิดซอร์สโค้ด Lumberyard มาเป็น O3DE ทำให้วงการเกมมีเอนจินโอเพนซอร์สระดับ AAA ที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่หนุนหลัง (ก่อนหน้านี้มี id Software โอเพนซอร์สเอนจินรุ่นเก่าๆ แต่ก็ทำถึงแค่ id Tech 4 เอนจินของ Doom 3) ก็ต้องรอดูกันว่าชุมชนนักพัฒนาเกมจะตอบรับเอนจินตัวนี้ดีแค่ไหนในระยะยาว
ที่มา - AWS, Linux Foundation, VentureBeat |
# ยืนยันแล้ว Nintendo Switch OLED ใช้ซีพียูตัวเดิม-แรมเท่าเดิม, Dock ใช้ร่วมกับรุ่นเดิมได้
จากข่าว Nintendo Switch OLED Model นอกจากประเด็นขยายหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 7 นิ้ว, เปลี่ยนมาใช้จอ OLED, ขยายสตอเรจเป็น 64GB แล้ว คำถามที่ทุกคนสงสัยคืออัพเกรดสเปกอื่นหรือไม่
ตอนนี้มีข้อมูลยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ทั้งหน่วยประมวลผลและหน่วยความจำของ Nintendo Switch OLED Model ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง สมรรถนะเครื่องไม่ได้แรงขึ้นแต่อย่างใด
ข้อมูลอีกอย่างที่เพิ่มมาคือ ตัว Dock สำหรับต่อออกจอทีวี สามารถใช้ร่วมกันได้ระหว่าง Switch รุ่นเก่าและรุ่น OLED ทั้งกรณีนำ Switch OLED ไปต่อกับ Dock รุ่นเก่า และกรณีนำ Switch รุ่นเก่าไปต่อกับ Dock รุ่นใหม่ (สามารถซื้อแยกเฉพาะ Dock รุ่นใหม่โดยไม่ต้องซื้อเครื่องก็ได้ แต่ยังไม่ระบุราคาว่าเท่าไร รุ่นเดิมขาย 60 ดอลลาร์)
ที่มา - The Verge, Kotaku |
# กลาโหมสหรัฐยกเลิกโครงการ JEDI Cloud แล้ว ตั้งโครงการใหม่ เปิดทางเป็น multi-cloud
เมื่อปี 2019 มีข่าวใหญ่ในวงการคลาวด์คือกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ประกาศว่า Microsoft เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการ JEDI Cloud ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาพื้นฐานระบบคลาวด์ที่จะนำไปใช้ทางการทหาร เป็นโครงการยาว 10 ปี มีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หลังจากประกาศว่า Microsoft เป็นผู้ชนะการประมูลก็เกิดเรื่องทันที โดย Amazon ผู้ร่วมประมูลได้ฟ้องศาลว่าอดีตประธานาธิบดี Trump ได้กดดันเพนตากอนไม่ให้ Amazon ได้งานนี้ เนื่องจาก Jeff Bezos ซีอีโอ Amazon เป็นเจ้าของสื่อ Washington Post ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Trump
ล่าสุดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ประกาศยกเลิกโครงการ JEDI แล้ว โดย John Sherman รักษาการซีไอโอของกระทรวงกลาโหมระบุว่าในตอนนั้นโครงการ JEDI ก็เหมาะสม แต่ตอนนี้มันกลายเป็นล้าสมัยไปเสียแล้ว และได้ตั้งโครงการใหม่ชื่อ Joint Warfighter Cloud Capability แทน เปิดรับผู้ประมูลทุกรายที่ผ่านเกณฑ์ของกระทรวง ทำให้เป็นโครงการ multi-cloud ไม่มีผู้ชนะรายเดียว ซึ่ง Microsoft, Amazon, Google, Oracle และ IBM อาจผ่านเกณฑ์ของโครงการ
โครงการใหม่นี้จะประกาศผู้ที่ได้งานก่อนกลางปี 2022 และระยะเวลาจะไม่นานกว่า 5 ปี ส่วนมูลค่ายังไม่เปิดเผย
ภาพจากเฟซบุ๊กกระทรวงกลาโหมสหรัฐ
ฝั่ง Microsoft ที่ดูจะเสียประโยชน์ที่สุดก็ไม่ได้งอแง ออกแถลงการณ์ยอมรับการตัดสินใจนี้โดยระบุว่ากระทรวงกลาโหมเจอการตัดสินใจที่ยากลำบากว่าจะไปต่อกับโครงการเดิมที่ต้องสู้คดีกันไม่จบสิ้น หรือหาทางใหม่ที่จะไปต่อได้ และเพราะความปลอดภัยของสหรัฐอเมริกานั้นสำคัญกว่าสัญญาจ้างฉบับเดียว Microsoft จึงเคารพและยอมรับการตัดสินใจนี้ของกระทรวงกลาโหมเพื่อที่จะไปต่อได้ในเส้นทางอื่น
ด้าน AWS ที่น่าจะได้ร่วมโครงการใหม่แน่ๆ ก็ออกมาบอกว่าสัญญาโครงการ JEDI ไม่ได้ถูกพิจารณาจากข้อเสนอแต่ถูกอิทธิพลภายนอกเข้ามากดดันทั้งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาล
อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมก็ไม่ได้ปล่อย Microsoft ที่เริ่มงานไปแล้วให้ขาดทุน โดยระบุว่า Microsoft มีสิทธิ์ยื่นข้อเสนอปิดงานและเรียกร้องค่าเสียหายได้
ที่มา - The Wall Street Journal |
# ส่องใบรับรองฉีดวัคซีน COVID ยุโรป การออกแบบฟอร์ตแมตใบรับรองเพื่อ QR โดยเฉพาะ
สัปดาห์ที่ผ่านมาสหภาพยุโรปเริ่มเดินหน้าออกใบรับรอง COVID-19 แบบดิจิทัล ทำให้ชาติสมาชิกสามารถสแกน QR เพื่อตรวจสอบใบรับรองได้ ผมสำรวจการออกแบบ QR ที่สหภาพยุโรปออกแบบครั้งนี้ พบว่ามีความน่าสนใจหลายประการโดยเฉพาะกระบวนการออกใบรับรองที่ง่ายเนื่องจากสามารถออกใบรับรองผ่านแอปหรือแม้แต่พิมพ์ใบรับรองเป็นกระดาษด้วยตัวเอง, ยังมีความปลอดภัยสูงด้วยกระบวนการยืนยันข้อมูลด้วยลายเซ็นดิจิทัล, และสุดท้ายคือการออกแบบฟอร์แมตข้อมูลถูกออกแบบด้วยเทคนิคหลายอย่างเพื่อให้ QR มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อให้สแกนได้ง่าย
เริ่มจาก JSON Schema
ข้อมูลในใบรับรอง COVID-19 ของสหภาพยุโรปนั้นเริ่มต้นจากความต้องการออกใบรับรอง 3 ประเภทเพื่อยืนยันว่าผู้ถือใบรับรองปลอดภัยเพียงพอที่จะเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรปได้โดยไม่ต้องถูกกักตัว โดยใบรับรองมีข้อมูลพื้นฐานเหมือนกันทุกใบ ได้แก่ เวอร์ชั่นข้อมูล, ชื่อผู้ถือใบรับรอง, และวันเกิดผู้ถือใบรับรอง (เพื่อยืนยันว่าตรงกับบัตรประจำตัว)
จากนั้นภายในจะมีใบรับรองประเภทย่อยอีก 3 ประเภท ได้แก่
v (vaccinated) ใบรับรองว่าฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว ระบุข้อมูลวัคซีน ชื่อวัคซีน, ผู้ผลิต, วันที่ฉีด, จำนวนโดสที่ฉีด, จำนวนโดสที่ต้องฉีด (วัคซีนบางตัวต้องการเข็มเดียว หรือบางประเทศระบุให้ผู้หายป่วยได้รับเข็มเดียว), ผู้ออกใบรับรอง
t (test) ใบรับรองผลการตรวจ COVID-19 ระบุเทคนิคการตรวจ, อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจ, วันที่ตรวจ, ผลการตรวจ, หน่วยงานผู้ตรวจ, ผู้ออกใบรับรอง
r (recovery) ใบรับรองหายป่วย ระบุวันที่ตรวจพบเชื้อ, วันที่ยืนยันว่าหายป่วย (ต้องหลังวันพบเชื้อ 11 วันขึ้นไป), วันหมดอายุใบรับรอง (ไม่เกิน 180 วัน), ผู้ออกใบรับรอง
แปลงเป็นไบนารี เซ็น บีบอัด
จากข้อมูลแบบ JSON ทีมงานเริ่มแนวทางการบีบอัดข้อมูลนี้ให้เล็กที่สุดเพื่อให้ได้ QR ที่สแกนได้ง่าย โดยใช้มาตรฐาน CBOR (RFC8949) ที่เทียบเท่ากับ JSON แต่เป็นไบนารีทำให้ข้อมูลมีขนาดเล็กกว่า จากก่อนหน้านี้ที่ตัว schema ของข้อมูลก็ออกแบบให้มีขนาดเล็กด้วยชื่อฟิลด์ย่อให้สั้น (nam = name, dob = date of birth, is = issuer) อยู่แล้ว
หลังจากแปลงข้อมูลเป็น CBOR แล้ว ข้อความภายในใบรับรองจะถูกเซ็นด้วยกุญแจลับของหน่วยงานออกใบรับรองที่มักเป็นกระทรวงสาธารณสุขของแต่ละชาติ โดยการเซ็นใช้ฟอร์แมต COSE (RFC8152) ไฟล์ที่ได้จะพร้อมใช้สำหรับการตรวจสอบโดยชาติสมาชิกแล้ว
แต่เนื่องจากข้อมูลจำนวนมากในใบรับรองเป็นสตริงที่อาจจะบีบอัดลงไปได้อีก มาตรฐานใบรับรองระบุให้บีบอัดไบนารีด้วย DEFLATE ไปอีกขั้น
Base-45 และ QR
หลังจากบีบอัดแล้วข้อมูลใบรับรองแบบไบนารีจะได้ขนาดเล็กเพื่อส่งต่อแล้ว แต่เนื่องจากกระบวนการส่งต่อไฟล์นั้นทำได้ลำบาก การออกใบรับรองเป็น QR นั้นง่ายกว่ามาก เพราะทุกคนสามารถพิมพ์หรือเพียงแสดงหน้าจอโทรศัพท์ให้หน่วยงานตรวจสอบ แต่ QR นั้นไม่รองรับข้อมูลแบบไบนารีโดยตรง โดยทั่วไปแล้วหากต้องการเข้ารหัสข้อมูลไบนารีเป็นสตริง นักพัฒนาก็มักจะใช้งาน Base-64 เพื่อให้แน่ใจว่าปลายทางอ่านข้อมูลได้
แต่ Base-64 นั้นมีปัญหาว่าจะเพิ่มขนาดข้อมูลไปถึง 33% โดยข้อมูล 3 ไบต์ (24 บิต) เมื่อแปลงเป็น Base-64 จะใช้ขนาด 4 ไบต์ (32 บิต) ทางผู้ออกแบบใบรับรองของสหภาพยุโรปอาศัยฟีเจอร์ Alphanumeric ของมาตรฐาน QR (ISO18004) ที่สามารถแสดงข้อมูลตัวอักษร (A-Z), ตัวเลข (0-9), และสัญลักษณ์อีก 9 แบบ รวม 45 อักขระ ตัวอักษรทุกๆ 2 ตัวจะใช้บิตบน QR ทั้งหมด 11 บิตเท่านั้น
ความได้เปรียบของโหมด 45 ตัวอักษรของ QR ทำให้มีการเสนอมาตรฐาน Base-45 เข้าไปยัง IETF โดย Base-45 สามารถเข้ารหัสข้อมูล 2 ไบต์ (16 บิต) โดยใช้ 3 ตัวอักษร เมื่อรวมเข้ากับโหมด 45 ตัวอักษรของ QR จะทำให้ทุกๆ 4 ไบต์ (32 บิต) จะใช้ข้อมูลบน QR จริงๆ เพียง 33 บิตเท่านั้น นับว่าเป็นกระบวนการเข้ารหัสที่ได้ประสิทธิพื้นที่ QR สูง โดยคงความเข้ากันได้กับโปรแกรมอ่าน QR จำนวนมาก
การกระจายกุญแจสาธารณะ
กระบวนการตรวจสอบใบรับรอง COSE นี้ต้องอาศัยการกระจายกุญแจสาธารณะของหน่วยงานออกใบรับรองทุกหน่วย ให้กับชาติสมาชิกอื่นๆ ชาติสมาชิกจะกระจายกุญแจสาธารณะของตัวเองเข้าไปยัง EU gateway วันละรอบ เพื่อให้ชาติสมาชิกอื่นๆ ที่จะดาวน์โหลดวันละรอบเช่นกัน เมื่อแต่ละชาติสมาชิกดาวน์โหลดรายการกุญแจสาธารณะแล้วก็จะสามารถยืนยันความถูกต้องของใบรับรอง COVID-19 ได้โดยไม่มีการส่งต่อข้อมูลในตัวใบรับรองแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่เพียงตรวจสอบชื่อและวันเกิดให้ตรงกับใบรับรองและยืนยันว่าเงื่อนไขของชาติตนยอมรับเงื่อนไข (การฉีดวัคซีน, หายป่วย, หรือผลทดสอบเป็นลบ) หรือไม่
นอกจากนี้ระบบหลังบ้านยังมีระบบแชร์กฎการตรวจสอบว่าแต่ละชาติมีเงื่อนไขยอมรับการเดินทางหรือวัคซีนอย่างไรให้อัพโหลดผ่าน EU gateway เพื่อให้ชาติสมาชิกตรวจสอบได้ว่าเงื่อนไขในใบรับรองนั้นสามารถเดินทางไปชาติใดได้บ้าง
กระบวนการออกใบรับรองดิจิทัลนั้นมีมานานแล้ว ที่เราเห็นทุกวันนี้คือหนังสือเดินทาง (passport) อิเล็กทรอนิกส์ที่ภายในคือข้อมูลดิจิทัลพร้อมลายเซ็นดิจิทัลของกระทรวงต่างประเทศชาติต่างๆ แต่หนังสือเดินทางใช้เวลาในการอิมพลีเมนต์ระบบยาวนาน หลายชาติยังไม่ได้ใช้เครื่องอ่านข้อมูลดิจิทัล หรือแม้แต่บางชาติที่ใช้งานก็ไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้องของลายเซ็นดิจิทัล เหตุผลหนึ่งคือการออกหนังสือเดินทางนั้นใช้เวลายาวนาน หนังสือเดินทางอาจจะมีอายุการใช้งานถึง 10 ปี การออกหนังสือเดินทางมีต้นทุนสูง การเปลี่ยนผ่านใช้เวลานาน การออกแบบหนังสือรับรองดิจิทัลในรูปแบบ QR ของยุโรปครั้งนี้เปิดทางให้องค์กรจำนวนมากสามารถอ่านและยืนยันเอกสารดิจิทัลได้ง่ายภายในเวลาอันรวดเร็ว การกระจายใบรับรองและการเพิ่มจำนวนจุดตรวจสามารถทำได้ทั่วถึง เพราะประชาชนทั่วไปเพียงถือ QR โดยไม่ต้องอาศัยเอกสารสำคัญที่มีเทคโนโลยีการผลิตซับซ้อน ฝั่งเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบเองก็ใช้เพียงโทรศัพท์มือถือที่มีกล้องเท่านั้น น่าสนใจว่าแนวทางการออกแบบครั้งนี้จะมีการใช้งานต่อไปในอนาคตได้มากน้อยเพียงใด |
# [Sensor Tower] Pokémon GO ครบรอบ 5 ปี ทำเงินไปแล้วรวมกว่า 5 พันล้านดอลลาร์
Sensor Tower รายงานข้อมูลรายได้ของ Pokémon GO ซึ่งเกมได้ฉลองครบรอบ 5 ปี ในวันนี้เช่นกัน ระบุว่าเกมทำเงินรวมไปแล้วมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2016 เฉพาะในปี 2020 ที่ผ่านมา มีรายได้กว่า 1,300 ล้านดอลลาร์ และยังมีแนวโน้มเติบโตทุกปี
รายงานระบุว่า Pokémon GO ถือเป็นเกมที่ทำเงินสูงสุดในบรรดาเกมประเภท Geolocation AR ซึ่งมีเกมคู่แข่งอื่นอย่าง Dragon Quest Walk ทำเงินในปีนี้แล้ว 261 ล้านดอลลาร์ และ Jurassic World Alive
รายได้ของ Pokémon GO มาจากอเมริกาเป็นอันดับ 1 ตามด้วยญี่ปุ่น ในอันดับ 2 และเยอรมนี ในอันดับที่ 3 มีจำนวนการดาวน์โหลดรวมราว 632 ล้านครั้ง
ที่มา: Sensor Tower |
# เปิดตัว Nintendo Switch รุ่นใหม่ OLED หน้าจอ 7 นิ้ว ยังไม่รองรับ 4K ราคา 37,980 เยน ขายตุลาคม
นินเทนโดเปิดตัว Nintendo Switch รุ่นใหม่เครื่องไฮบริด ซึ่งมาพร้อมกับหน้าจอในตัวเครื่องแบบ OLED ความละเอียด 720p ขนาด 7 นิ้ว (รุ่นเดิม 6.2 นิ้ว) อย่างไรก็ตามในรายละเอียดอื่นของสเป็กอาจไม่เป็นไปตามข่าวลือก่อนหน้านี้
โดย Nintendo Switch รุ่นใหม่รองรับความละเอียดที่ 1080p เมื่อเชื่อมต่อกับทีวี เท่ากับรุ่นก่อนหน้า ไม่ได้รองรับ 4K ตามที่คาดกันก่อนหน้านี้ ส่วนชิปเซตระบุว่าเป็น NVIDIA Tegra แบบปรับแต่งแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นรุ่นใหม่ขึ้นหรือไม่ แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมง เท่ากับรุ่นก่อน ที่เพิ่มมากกว่าคือพื้นที่หน่วยความจำภายในเครื่อง 64GB (เดิม 32GB) ปรับระบบเสียง และ Dock มีพอร์ต ethernet รองรับสายแลน
Nintendo Switch รุ่นใหม่ ซึ่งเรียกว่ารุ่น OLED เริ่มขายตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2021 เป็นต้นไป มีสองสีให้เลือกได้แก่ สีขาว และสีฟ้า-แดงนีออน อเมริการาคาขาย 350 ดอลลาร์ ญี่ปุ่นราคาขาย 37,980 เยน ส่วนรุ่นก่อนหน้ายังคงวางขายในราคาเดิม 300 ดอลลาร์ / 32,978 เยน
ที่มา: The Verge |
# แนะนำ HUAWEI MateView GT จอมอนิเตอร์สเปกเทพเกินต้าน เพื่อความจัดจ้านในการเล่นเกม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแวดวงไอทีทุกวันนี้มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นในเรื่องของสเปกผลิตภัณฑ์ที่ต้องพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของบรรดาเกมเมอร์ เพราะเกมรุ่นใหม่ๆ ที่ถูกนำเสนอล้วนต้องการสเปกอุปกรณ์ในระดับที่ไม่ธรรมดา ผู้เล่นจึงจะสามารถเต็มอิ่มกับอรรถรสและสัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งล่าสุด HUAWEI MateView GT เกมมิ่งมอนิเตอร์จอโค้งรุ่นแรกจากหัวเว่ยที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ อัดแน่นด้วยคุณสมบัติมากมายที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจคนรักเกมโดยเฉพาะ ทั้งจอแสดงผลแบบโค้งพิเศษ กว้าง 34 นิ้ว มอบความคมชัดสูงถึง 3K พร้อมเอนจอยไปกับระบบเสียง 360 องศาด้วยลำโพง SoundBar 5W จำนวน 2 ตัว รองรับเสียงสเตอริโอ 2.0 แถมเพิ่มลดเสียงได้อย่างง่ายดายด้วยปลายนิ้วสัมผัส One click and touch ผ่าน SoundBar ไร้กังวลกับเรื่องความหน่วงของภาพด้วยอัตราการรีเฟรช 165Hz นอกจากนี้ยังมีพอร์ตการเชื่อมต่อที่สอดคล้องกับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ เรียกได้ว่าครบเครื่องทั้งเรื่องภาพ เสียง และการเชื่อมต่อการใช้งานแบบครบจบในจอเดียว รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ คลิกที่นี่
หน้าจอกว้างพิเศษแบบโค้ง ปรับมุมมองภาพได้อย่างใจนึก เพิ่มอรรถรสการรับชมที่สมจริง
(รายละเอียดเพิ่มเติม: https://bit.ly/3hhvrU9)
HUAWEI MateView GT เป็นหน้าจอมอนิเตอร์โค้งรุ่นแรกของหัวเว่ยที่มีจอแสดงผลแบบโค้งพิเศษกับอัตราส่วน 21:9 ขนาดกว้างถึง 34 นิ้ว รองรับความละเอียด WQHD 3440 x 1440 ดีไซน์มาเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการเล่นเกมอย่างเหนือชั้น และมอบประสบการณ์ความบันเทิงที่สมจริงยิ่งขึ้นสำหรับผู้เล่น ส่วนในแง่ของประสิทธิภาพสี HUAWEI MateView GT ช่วยเพิ่มความแม่นยำของเฉดสีสำหรับเกมและการตัดต่อวิดีโอ เนื่องจากรองรับขอบเขตสีกว้างถึง 90% DCI-P3 ขณะที่ค่า Delta E <2 ทำให้ภาพที่แสดงผลออกมามีคุณภาพสูง ผู้ใช้งานจะได้อรรถรสเต็มอิ่มและได้เสพความงามของภาพทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไม่ต่างจากการดูหนังในโรงภาพยนตร์เลยทีเดียว นอกจากนี้ HUAWEI MateView GT ยังรองรับความสว่างระดับ HD ได้สูงสุด 350 nits และมีอัตราส่วนคอนทราสต์ที่ 4000:1 รวมถึงรองรับเทคโนโลยี HDR10 เพื่อทำให้เนื้อหาดูมีมิติ สีสวย สมจริงยิ่งขึ้น มั่นใจในความสว่างแบบจัดเต็มทุกครั้งที่ใช้งาน ด้านมุมมองการใช้งานสามารถปรับระดับความสูงได้ถึง 110 มม. ปรับมุมหน้าจอไปข้างหน้าได้ 5 องศาและถอยหลังได้ถึง 20 องศา ทั้งยังถอดตัวยึดออกได้อย่างสะดวกทำให้ติดตั้งบนผนังได้ง่าย และรวดเร็ว
ในฐานะจอแสดงผลแบบเกมมิ่งมอนิเตอร์รุ่นแรกของหัวเว่ย HUAWEI MateView GT พร้อมมอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้งการเล่นเกมและความบันเทิง แถมมาพร้อมกับคุณสมบัติที่ละเอียดอ่อนแต่ทรงพลัง ใต้กรอบด้านล่างมีจอยสติ๊กห้าทิศทาง เมื่อใช้ร่วมกับเมนู On Screen Display (OSD) ที่ออกแบบมาอย่างประณีต ทำให้การโต้ตอบกับจอภาพทำได้ง่ายกว่าที่เคย นอกจากนี้ยังผ่านการรับรอง TÜV Rheinland และรองรับ DC Dimming ซึ่งช่วยลดแสงสีฟ้าและการกะพริบซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อดวงตาขณะเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยกระดับลำโพง SoundBar เพิ่มมิติของเสียงให้นุ่มลึกยิ่งกว่าที่เคย
(รายละเอียดเพิ่มเติม: https://bit.ly/3hhvrU9)
แถบเสียงที่เป็นนวัตกรรมใหม่ใน HUAWEI MateView GT คือผลลัพธ์ของการผสมผสานลำโพงและตัวยึดเข้าไว้ด้วยกันอย่างพิถีพิถัน ประกอบด้วยลำโพงขนาด 5W จำนวน 2 ตัว รองรับเสียงสเตอริโอ 2.0 ไม่ว่าจะเกมหรือวิดีโอ ผู้ใช้ก็สามารถดื่มด่ำไปกับเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทางอันน่าทึ่งได้ ขณะที่แผงสัมผัส RGB บน SoundBar ไม่เพียงแต่ใช้ในเอฟเฟกต์แสง Vibrant Mood Lighting ที่ปรับแต่งแสง ช่วยขับเน้นอารมณ์ความรู้สึกขณะเล่นได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้งานปรับระดับเสียงได้อย่างง่ายดายด้วยนิ้วเดียว One click and touch และหาก double click จะเป็นการปิดเสียง เรียกได้ว่าผสานความสวยงามและการใช้งานได้อย่างลงตัว ยกระดับประสบการณ์การใช้งานเดสก์ท็อปที่สนุกสนานเพลิดเพลินสำหรับผู้ใช้งานโดยเฉพาะ ส่วนไมโครโฟนที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องนั้นเป็นไมโครโฟนคู่ซึ่งมีระบบตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติสามารถรับเสียงได้รอบทิศทางในระยะ 4 เมตร รวมถึงมีระบบ AI อัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เสียงมีความคมชัดมากขึ้นอีกด้วย
ส่งมอบภาพที่ราบรื่นด้วยการประมวลผลชั้นยอด และอัตราการรีเฟรชระดับชั้นนำ
(รายละเอียดเพิ่มเติม: https://bit.ly/3hhvrU9)
อัตราการรีเฟรชที่สูงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับหน้าจอแสดงผลเกม ดังนั้นด้วยประสิทธิภาพการรองรับอัตราการรีเฟรชที่ 165Hz ทำให้ HUAWEI MateView GT ปลดปล่อยความสามารถในการประมวลผลกราฟิกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งไม่เพียงช่วยให้มั่นใจได้ถึงภาพที่ราบรื่นและชัดเจนยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ แต่ยังช่วยลดความเสียหายต่อสายตาของผู้ใช้งานระหว่างเล่นอีกด้วย เหล่าเกมเมอร์ทั้งหลายหมดกังวลเพราะ HUAWEI MateView GT มาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษ Dark Field Control ช่วยปรับความสว่างของจอแสดงผลในฉากที่มีแสงน้อยและเปิดรับแสงมากเกินไปให้สมดุล ช่วยให้ผู้เล่นมองเห็นศัตรูได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงคุณสมบัติ Crosshairs ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเกม FPS ที่แม้ว่าขอบเขตของเกมจะปิดอยู่ก็ตาม แต่ HUAWEI MateView GT จะมอบขอบเขตให้กับผู้เล่นและช่วยให้พวกเขาเล็งและยิงได้อย่างง่ายดาย HUAWEI MateView GT ขยายขีดความสามารถขึ้นไปอีกขั้นกับพอร์ตการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้งแจ็คเสียง ขนาด 3.5 มม. สำหรับหูฟังและไมโครโฟน, พอร์ตแสดงผล HDMI 2.0 สองพอร์ต, พอร์ต DisplayPort 1.4, USB Type C สำหรับชาร์จและเชื่อมต่อดีไวซ์อื่นๆ ครบถ้วน สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว
เปิดตัวด้วยราคาพิเศษ พร้อมให้จับจองและรับของสมนาคุณสุดคุ้ม
(ช่องทางสั่งซื้อทางออนไลน์: https://bit.ly/3hhvrU9)
HUAWEI MateView GT มอนิเตอร์จอโค้งกับคุณสมบัติสุดล้ำเพื่อที่สุดของประสบการณ์และความจัดจ้านในการเล่นเกมทั้งด้านความคมชัดของภาพและความกระหึ่มของเสียง เปิดตัวอย่างเป็นทางการและวางจำหน่ายในประเทศไทยในราคาเพียง 17,990 บาทเท่านั้น โดยมาพร้อมกับข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่จับจองเป็นเจ้าของตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2564 – 23 กรกฎาคม 2564 รับฟรี Razer Basilisk Gaming Mouse มูลค่า 1,690 บาท เมื่อซื้อผ่าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ หรือรับฟรี HUAWEI FreeBuds 3i มูลค่า 3,290 บาท เมื่อซื้อผ่านร้าน HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ย HUAWEI Online Store และ JD Central, Lazada และ Shopee |
# ไม่หลงอีกต่อไป Google Maps นำทางแบบ AR ในสถานีรถไฟญี่ปุ่นได้แล้ว
หลัง Google Maps อัพเดตระบบนำทางแบบ AR ให้ทำงานได้ในอาคาร เช่นห้างสรรพสินค้าในสหรัฐฯ เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยใช้ Precise Altitude วัดระดับความสูงเพื่อหาตำแหน่งที่แน่นอนของผู้ใช้ในอาคาร และนำทางไปยังบันไดเลื่อน ลิฟต์ หรือทางออกอาคารที่ต้องไปได้
ล่าสุด Google อัพเดตให้ระบบนำทางแบบ AR ทำงานได้ในสถานีรถไฟของญี่ปุ่นแล้ว โดยสามารถนำทางให้ผู้ใช้ต่อรถไฟ ในสถานีรถไฟที่มีหลายชั้นของญี่ปุ่นได้ เบื้องต้นรองรับใน 17 สถานีดังนี้
Tokyo Station, Shinjuku Station, Shibuya Station, Shinagawa Station, Ueno Station, Ikebukuro Station, Shimbashi Station, Akihabara Station, Takada Baba Station, Gotanda Station, Ebisu Station, Nippori Station, Nakano Station, Kitasenju Station, Tachikawa Station, Omiya Station, Urawa Station
Google จะอัพเดตอาคารที่ระบบนำทางด้วย AR ทำงานได้เพิ่มเติมเรื่อยๆ โดยเน้นไปที่ห้างสรรพสินค้า สนามบิน และสถานีรถไฟ ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้ผ่านแอป Google Maps ทั้งบน iOS และ Android
ที่มา - Google via 9to5Google |
# Mozilla เตรียมหยุดอัพเดตแอป Firefox Lite 30 มิถุนายนนี้
Mozilla ประกาศในบล็อก SUMO ว่าเตรียมหยุดอัพเดตแอปมือถือ Firefox Lite หรือชื่อเดิม Firefox Rocket แล้ว และจะไม่มีอัพเดตทั้งความปลอดภัยหรืออัพเดตอื่นๆ อีก หลังวันที่ 30 มิถุนายนเป็นต้นไป
Firefox Lite เป็นแอป Firefox เวอร์ชั่นประหยัดด้าต้า และเน้นโหลดไว เปิดตัวครั้งแรกสำหรับตลาดประเทศอินโดนีเซียในปี 2017 และเน้นตลาดประเทศในเอเชียอื่นๆ ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น Firefox Lite ทีหลัง แตกต่างจากแอป Firefox หลักโดยทำงานบน Chromium WebView แทน มี Turbo Mode บล็อก trackers และโฆษณา พร้อมมีตัวเลือกปิดไม่ให้โหลดรูปได้
ช่วงหลัง Firefox Lite เริ่มไม่ Lite ขึ้นเรื่อยๆ และมีปัญหามีบุ๊กมาร์คโฆษณาที่ผู้ใช้ลบไม่ได้ แถมยังส่งข้อความโฆษณาให้กับผู้ใช้ และเพิ่มฟีเจอร์ Travel Planning ช่วยแพลนการท่องเที่ยวเข้ามาในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 ก่อนจะเจอ COVID-19 พอดี
ที่มา - Mozilla Blog via ghacks.net |
# ผู้บริหาร HMD Global ในจีน ระบุเรือธง Nokia 5G รุ่นใหม่ เปิดตัว 11 พฤศจิกายนนี้
Zhang Yucheng โปรดักต์แมเนเจอร์ประจำประเทศจีน ของ HMD Global เจ้าของแบรนด์ Nokia ในปัจจุบัน ตอบผู้ใช้ใน Weibo ว่ามือถือเรือธง 5G รุ่นใหม่ของ Nokia เตรียมเปิดตัวภายในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นวันคนโสดของประเทศจีน และมักมีโปรโมชั่นลดราคา 11.11 บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ
HMD ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นเพิ่มเติมเกี่ยวกับมือถือเรือธง 5G รุ่นใหม่นี้ แต่คาดว่าอาจเป็นรุ่น Nokia 9.3 Pureview ที่มีข่าวลือว่าถูกเลื่อนก่อนหน้านี้ และอาจมีการตั้งชื่อใหม่
HMD เปิดตัวมือถือที่เรียกได้ว่าเป็น “เรือธง” ครั้งล่าสุด คือ Nokia 9 Pureview ในปี 2019 ที่แม้จะมีกล้องหลัง ZEISS ถึง 5 กล้อง แต่กลับใช้ซีพียู Snapdragon 845 ซึ่งเป็นชิปรุ่นรอง (ชิปเรือธงปีนั้นคือ Snapdragon 865) และขายในราคา 18,900 บาท
หลังจากนั้น HMD ก็ทยอยเปิดตัวมือถือระดับกลาง เช่น Nokia 7.2, Nokia 6.2 ช่วงเดือนกันยายน 2019 และ Nokia 8.3 5G, Nokia 5.3, Nokia 1.3 ในปี 2020 แต่ก็ยังไม่มีวี่แววมือถือระดับเรือธงรุ่นใหม่จนถึงตอนนี้
ที่มา - ITHome (ภาษาจีน) via GizChina
Nokia 9 Pureview |
# ประธานเทศกาลหนังเมืองคานส์บอก Netflix และสตรีมมิ่งอื่นยังไม่มีผู้กำกับหน้าใหม่โดดเด่นเลยสักคน
เป็นอีกความไม่เห็นตรงกันระหว่างสายภาพยนตร์เก่ากับสตรีมมิ่ง เมื่อ Thierry Fremaux ประธานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ของฝรั่งเศส ในระหว่างสัมภาษณ์กับนักข่าวก่อนเปิดงาน มีการพูดคุยประเด็นหนังสตรีมมิ่ง โดย Fremaux ชื่นชมผลงาน Netflix หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Mank และ The Irishman จนนักข่าวขอให้เขายกตัวอย่างชื่อผู้กำกับหน้าใหม่ฝีมือดีจากสตรีมมิ่ง ซึ่งเขามองว่า ไม่มีเลยสักคนในช่วงสิบปีมานี้
เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์บอยคอต Netflix มาตั้งแต่ปี 2018 โดยหนังของ Netflix จะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมประกวดใดๆ เว้นเสียแต่นำภาพยนตร์มาฉายบนจอใหญ่ในฝรั่งเศส หากอยากแข่งขันเพื่อชิงรางวัล Palme d'Or (รางวัลสูงสุดในการประกวดภาพยนตร์ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์)
Fremaux บอกด้วยว่า ความเป็นมาของเทศกาลหนังเมืองคานส์ ดำเนินมาถึงปีที่ 125 แล้ว ภารกิจของเทศกาลคือการค้นพบผลงานใหม่ๆ ส่วน Netflix ก็พยายามทำผลงานด้วยการดึงตัวผู้กำกับดังๆ มาร่วมงาน เขาจึงไม่มั่นใจว่า Netflix หรือสตรีมมิ่งอื่นๆ จะสามารถก้าวข้ามเทศกาลหนังเมืองคานส์ไปได้
ความสัมพันธ์ระหว่างเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์และ Netflix เริ่มไม่สู้ดีมาตั้งแต่ปี 2017 เมื่อคนในธุรกิจโรงหนังประท้วงเรื่องการรวมหนังจาก Netflix เข้ามาในการประกวดด้วย ทำให้ทางเทศกาลเปลี่ยนกฎและ Netflix ถอนหนังออกจากการประกวด 3 เรื่อง
ปัจจุบัน Amazon ยอมทำตามกฎของเทศกาล ส่งหนังเจ้าประกวดในปีนี้ 2 เรื่อง แต่ Netflix ยังไม่ยอมทำตามกฎ เพราะมองว่าเข้มงวดเกินไป ด้านเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ประจำปี 2021 เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 6-17 ก.ค.นี้
ภาพจาก Festival de Cannes
ที่มา - The Strait Times, Variety |
# Elon Musk ยอมรับ Full Self-Driving ยากกว่าที่คิด หลังออก FSD Beta v9 ช้าจนโดนทวง
Elon Musk เคยทวิตไว้เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2021 ว่าจะออกอัพเดตระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูป (Full Self-Driving) เวอร์ชั่นเบต้า 9 (FSD Beta v9) ภายใน 1-2 สัปดาห์ ถ้าอิงตามไทม์ไลน์นี้ FSD Beta v9 ควรจะออกภายในวันที่ 21 มิถุนายน แต่จนถึงปัจจุบัน Tesla ก็ยังไม่ออกอัพเดตนี้มา
ผู้ใช้ Tesla เริ่มออกมาทวงถาม Elon Musk ว่าสองอาทิตย์แล้ว ทำไมไม่มีอัพเดต และบางคนถึงกับแซวโดยการเปลี่ยนชื่อรถ Tesla ของตัวเองเป็น “Two Weeks” ซึ่ง Elon Musk ก็มาตอบขำๆ และยอมรับว่าการทำ FSD นี่มันยากกว่าที่คิด เพราะการใช้ AI ประมวลผลโลกจริงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็สัญญาว่าจะออกเวอร์ชั่นใหม่เร็วๆ นี้
การเล่นทวิตเตอร์ของ Elon Musk แม้จะมีข้อดีในด้านมาร์เก็ตติ้งในบางครั้ง แต่ก็ส่งผลเสียเมื่อบริษัทไม่สามารถทำตามสิ่งที่ Elon Musk เคยพูดไว้ได้เช่นกัน เพราะทุกสิ่งที่ Elon Musk ทวิตออกมา ดูเหมือนจะกลายเป็นคำสัญญามัดตัวบริษัทไปทั้งหมด แถมปัจจุบัน Tesla ยังไม่มีทีม PR คอยแก้ปัญหากับสื่อ หลังยุบทีมไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วอีกด้วย
ที่มา - Electrek |
# Ubisoft ปิดเซิฟเวอร์ DRM ทำเกม Might & Magic X: Legacy เล่นไม่ได้ แถมลบเกมจากสโตร์หลังแฟนๆ โวย
Ubisoft ปิดบริการออนไลน์ของเกมเก่าหลายเกม เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งการปิดบริการออนไลน์นี้ ทำให้ระบบ DRM (Digital Rights Management) ตรวจสอบสิทธิ์แบบออนไลน์ว่าเกมที่ผู้เล่นกำลังเล่นเกมที่เป็นของแท้อยู่ ใช้งานไม่ได้ ทำให้ผู้เล่น เล่นเกมเก่าบางเกม เช่น Might & Magic X: Legacy ที่ออกในปี 2014 ต่อไม่ได้
แม้จะมีผู้เล่นหาวิธีแก้ไฟล์ LevDialog.xml ในโฟลเดอร์ Steam ของเกมเพื่อให้เล่นต่อได้หลังมีการเช็คสิทธิ์หลังจบบทแรกของเกม แต่ผู้เล่นก็ยังไม่สามารถเล่นภาคเสริม The Falcon & The Unicorn ได้อยู่ดี มิหนำซ้ำ Ubisoft ยังขายเกมนี้บน Steam และ Ubisoft Store ต่อไป ท่ามกลางเสียงก่นด่าของผู้เล่น
ล่าสุดแทนที่ Ubisoft จะแก้ปัญหาเรื่องเซิร์ฟเวอร์ DRM แต่กลับใช้วิธีลบเกมออกไปจากหน้าร้านค้า Steam และหน้า Ubisoft Store แทน ทำให้ผู้เล่นยิ่งส่งเสียงก่นด่าดังขึ้นไปอีก บางคนถึงกับสัญญาว่าจะไม่ซื้อเกม Ubisoft อีกแล้วเลยทีเดียว เพราะเหมือนโดนทิ้งความรับผิดชอบไปดื้อๆ
DRM เป็นระบบเจ้าปัญหามายาวนาน เพราะทำให้ผู้เล่นที่เล่นของแท้ต้องประสบปัญหาหากเซิฟเวอร์ที่ใช้เช็คสิทธิ์ในการเล่นถูกปิด แถมบางระบบเช่น Denuvo อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพเกมอีกด้วย ในขณะที่ผู้เล่นเถื่อน ก็ยังสามารถแฮกระบบได้หลังจากเกมออกไปแล้วระยะหนึ่ง และเล่นได้โดยไม่ต้องกังวลว่าเซิฟเวอร์เช็คสิทธิ์จะถูกปิด บริษัทจัดจำหน่ายเกม คงต้องพัฒนาและปรับปรุงวิธีตรวจสอบสิทธิ์กันต่อไป
ที่มา - Eurogamer via Kotaku |
# กลุ่มบริษัทไอทีสหรัฐฯ ขู่อาจหยุดให้บริการในฮ่องกง หลังกฎหมายต่อต้านการเสียบประจานเพิ่มอำนาจตำรวจตรวจค้นโทรศัพท์
The Wall Street Journal รายงานว่า Asia Internet Coalition (AIC) พันธมิตรทางเทคโนโลยีที่มีบริษัทใหญ่อย่าง Facebook, Google และ Twitter เป็นสมาชิกส่งจดหมายเตือนฮ่องกงว่าบริษัทต่างๆ จะหยุดให้บริการในฮ่องกง หากผ่านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลใหม่ที่อาจทำให้บริษัทต้องรับผิดต่อ doxxing หรือการเอาข้อมูลส่วนบุคคลมาปะติดปะต่อกัน และประจานออกไปเพื่อหวังผลว่าจะปิดปากผู้เห็นต่างทางการเมือง
Jeff Paine กรรมการผู้จัดการของ Asia Internet Coalition (AIC) กล่าวในจดหมายที่ส่งไปยังคณะกรรมาธิการความเป็นส่วนตัวของข้อมูลฮ่องกงว่า บริษัทสมาชิกไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรม doxxing อยู่แล้ว แต่การใช้ถ้อยคำคลุมเครือในร่างกฎหมายนั้นอาจกระทบบริษัทและพนักงานในพื้นที่บริการตกเป็นเป้าการสอบสวนและการดำเนินคดีได้
ภาพจาก AIC
doxxing เป็นวิธีที่ใช้กันมากช่วงประท้วงในฮ่องกงปี 2019 วิธีการคือ นำข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้ เช่นชื่อ โรงเรียนเก่า สมาชิกในครอบครัว หรือโพสต์เก่าๆ บนโซเชียลมีเดียมาปะติดปะต่อใหม่แล้วเผยแพร่ทางออนไลน์ ส่งผลให้เหยื่อหรือคนที่ถูก doxxed รู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งเป็นวิธีที่ทั้งฝั่งผู้ประท้วง และฝั่งสนับสนุนจีนนำมาใช้โจมตีซึ่งกันและกัน
โทษของการ doxxing สูงถึง 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง เทียบเท่ากับ 128,800 ดอลลาร์สหรัฐ และจำคุกสูงสุด 5 ปี ทำให้บริษัทโซเชียลกังวลว่าพนักงานอาจถูกสอบสวนทางอาญาหรือถูกตั้งข้อหาหากผู้ใช้งานเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลทางออนไลน์แม้จะเป็นการเผยแพร่ทั่วไปโดยไม่มีเป้าหมายอยากจะ doxxing ใครก็ตาม
ทาง AIC แนะนำว่าควรกำหนดขอบเขตความรุนแรงของการละเมิดให้รุนแรงกว่านี้ และเสนอให้ประชุมร่วมกันกับบริษัทไอทีด้วย ด้านโฆษกคณะกรรมาธิการความเป็นส่วนตัวของข้อมูลฮ่องกงบอกว่าการแก้ไขกฎหมายจะไม่กระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความเห็นบนออนไลน์
ที่มา - The Wall Street Journal, Engadget |
# ธนาคาร Barclays ห้ามลูกค้าโอนเงินเข้า Binance แล้ว หลังรัฐบาลอังกฤษสั่งแบน
ผลต่อเนื่องจาก รัฐบาลอังกฤษแบน Binance UK คือ Barclays ธนาคารใหญ่ของอังกฤษ แบนไม่ให้ลูกค้าของธนาคารโอนเงินไปยัง Binance แล้ว
Financial Times รายงานข่าวว่า Barclays แจ้งข้อมูลไปยังลูกค้าว่าขอหยุดโอนเงินไปยัง Binance ด้วยเหตุผลว่าปฏิบัติตามคำเตือนของ FCA (หน่วยงานกำกับดูแลการเงินที่แบน Binance) อย่างไรก็ตาม การถอนเงินจาก Binance กลับมายังบัญชีของลูกค้ายังทำได้อยู่
ธนาคารอื่นๆ ของอังกฤษยังไม่มีท่าทีชัดเจนต่อ Binance แต่บางธนาคาร เช่น Lloyds มีนโยบายไม่ให้บัตรเครดิตจ่ายเงินคริปโตอยู่แล้ว ส่วน NatWest บอกว่าบล็อคการจ่ายเงินไปยังบริษัทคริปโตบางแห่งที่พบการฉ้อโกง แต่ก็ไม่ระบุชื่อบริษัท
ที่มา - Financial Times, ภาพจาก Barclays |
# Audacity เปลี่ยนเจ้าของใหม่เป็นรัสเซีย, แก้นโยบายความเป็นส่วนตัว เก็บข้อมูลผู้ใช้งาน
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Audacity ซอฟต์แวร์ตัดต่อเสียงแบบโอเพนซอร์ส ถูกซื้อกิจการโดย Muse Group บริษัทซอฟต์แวร์สายดนตรี เจ้าของเว็บไซต์ Ultimate Guitar และซอฟต์แวร์ MuseScore, MuseClass, ToneBridge ซึ่งหลายตัวเป็นโอเพนซอร์ส
จุดเริ่มต้นของ Muse Group มาจากชาวรัสเซีย Eugeny Naidenov สร้างเว็บไซต์ Ultimate Guitar ในปี 1998 และกลายเป็นเว็บไซต์ยอดนิยมของคนเล่นกีตาร์ จากนั้น Ultimate Guitar ออกเวอร์ชันแอพมือถือในปี 2007 และขยายตัวด้วยการซื้อกิจการแอพหลายตัวนับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา แล้วเปลี่ยนชื่อเรียกตัวเป็น Muse Group ในช่วงปลายปี 2020
Dominic Mazzoni ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ Audacity ระบุในแถลงการณ์ว่า การเป็นส่วนหนึ่งของ Muse Group ทำให้มีทรัพยากรมาพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ มากขึ้น โดย Muse Group เองก็ยังคงซอฟต์แวร์ที่ซื้อมาให้เป็นโอเพนซอร์สดังเดิม
การซื้อกิจการนี้จะเปลี่ยนหัวหน้าทีมพัฒนา Audacity มาเป็น Martin Keary ที่ดูแลโครงการแอพโน้ตเพลง MuseScore มาก่อน เขาก็สัญญาว่าจะยังคง Audacity เป็นโอเพนซอร์สเช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ FOSS Post ไปค้นพบว่า นโยบายความเป็นส่วนตัวของ Audacity เพิ่งถูกเปลี่ยน โดยจะเก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ (เช่น ซีพียู OS ไอพี) เพื่อนำไปปรับปรุงแอพ (app analytics) และเก็บ "ข้อมูลที่จำเป็น" ตามที่หน่วยงานภาครัฐร้องขอ (legal enforcement) โดยไม่ระบุแน่ชัดว่าเก็บข้อมูลอะไรบ้าง แต่บอกว่าข้อมูลนี้สามารถแชร์ให้พนักงานของ Muse Group, ผู้ตรวจสอบบัญชี, ที่ปรึกษากฎหมาย รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ด้วย
ข้อมูลเหล่านี้จถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ในยุโรป (ไม่ระบุประเทศ) และอาจแชร์ไปยังสำนักงานใหญ่ของ Muse Group ในรัสเซีย หรือที่ปรึกษากฎหมายในสหรัฐอเมริกา
ประเด็นนี้ทำให้ชุมชนผู้ใช้ Audacity รับไม่ได้ เกิดกระแสต่อต้านใน GitHub และ Reddit รวมถึงมีเสียงเรียกร้องให้ fork โครงการใหม่
ตอนนี้มีคน fork ซอร์สโค้ดของ Audacity โดยถอดโค้ดส่วนที่เก็บข้อมูลผู้ใช้ออกมาบน GitHub เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีชื่อโครงการใหม่ และกระบวนการสร้างชุมชนใหม่ก็เพิ่งเริ่มต้น
ที่มา - MuseGroup, Audacity, PCMag |
# ประยุทธ์สนับสนุน Open Government หวังยกระดับความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ประชาชนเชื่อใจ
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้วางแนวนโยบายและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติเพื่อการก้าวเป็นรัฐบาลดิจิทัล ยกระดับความโปร่งใส ตรวจสอบได้หรือการเป็นรัฐบาลเปิด (Open Government) เพิ่มการได้รับความเชื่อใจจากประชาชน (Public Trust)
รัฐบาลอ้างอิงข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ ที่ได้ผลการสำรวจรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ประจำปี 2020 หรือ UN E-Government Survey 2020 พบว่า ไทยได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 57 จาก 193 ประเทศ ซึ่งเป็นอันดับที่ดีขึ้น จากอันดับที่ 73 ในปี 2561 และอันดับที่ 77 ในปี 2559
โดยไทยได้รับคะแนนด้านการให้บริการออนไลน์ (Online Service Index: OSI) และโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม (Telecommunication Infrastructure Index: TII) เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ในระดับอาเซียน ไทยอยู่ในอันดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์ (อันดับที่ 11 ของโลก) และมาเลเซีย (อันดับที่ 47 ของโลก) ตามลำดับ ทำให้ไทยต้องเดินหน้าแนวนโยบายและยุทธศาสตร์ชาติเพื่อก้าวเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างสมบูรณ์
ภาพจาก ไทยคู่ฟ้า
ที่มา - ข่าวรัฐบาลไทย |
# Alibaba รวมกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์เป็นแผนกใหม่โดยเฉพาะ เพื่อแข่งขันกับ Meituan
Alibaba ประกาศปรับโครงสร้างองค์กร โดยจัดตั้งฝ่ายใหม่ในกลุ่มธุรกิจบริการด้านไลฟ์สไตล์ ซึ่งเป็นการรวมธุรกิจอาทิ บริการแผนที่ AutoNavi, บริการการท่องเที่ยว Fliggy และแพลตฟอร์ม O2O อย่าง Ele.me และ Koubei และแต่งตั้งให้ Yu Yongfu เป็นผู้ดูแลฝ่ายธุรกิจใหม่นี้
Daniel Zhang ซีอีโอ Alibaba กล่าวว่าธุรกิจเหล่านี้ต่างมีการเติบโตสูงอยู่แล้ว แต่ด้วยการแข่งขันในตลาดที่สูง การรวมธุรกิจเหล่านี้ให้ไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมดจึงดีกว่า ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองว่า Alibaba ปรับกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์นี้เข้าด้วยกัน ก็เพื่อให้สามารถแข่งขันกับ Meituan ได้ดีมากขึ้น
นอกจากนี้ Alibaba ยังประกาศรวมกลุ่มธุรกิจใน Tmall โดยรวมส่วนซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ Tmall Supermarket กับส่วนธุรกิจนำเข้าและส่งออก Tmall Import-Export มาเป็นชื่อใหม่ Tmall Supermarket and Import-Export
ที่มา: SCMP และ Alizila |
# เหมาจ่ายได้ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ REvil เรียกค่าไถ่ 70 ล้านดอลลาร์ ปลดล็อกเหยื่อกว่าพันรายพร้อมกัน
กลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่ REvil ที่อาศัยช่องโหว่ซอฟต์แวร์จัดการระบบไอที Keseya VSA เจาะเข้าระบบของผู้ให้บริการ (managed service provider - MSP) อีกทีหนึ่ง จนตอนนี้มีธุรกิจที่กระทบแล้วกว่า 1,000 บริษัท ทาง REvil เพิ่มทางเลือกให้เหยื่อทุกรายรวมกันจ่ายค่าไถ่ 70 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อกุญแจปลดล็อกสำหรับทุกองค์กร โดยก่อนหน้านี้ REvil เรียกค่าไถ่เหยื่อแต่ละราย 5 ล้านดอลลาร์
REvil อาศัยการเจาะซอฟต์แวร์ Kaseya VSA ที่ MSP ใช้ดูแลลูกค้า แล้วยิงคำสั่งอัพเดตไปยังเครื่องไคลเอนต์และเซิร์ฟเวอร์ของธุรกิจจำนวนมากที่เป็นลูกค้าของบริษัทเหล่านั้น ทาง Kaseya ระบุว่ามี MSP ที่ตกเป็นเหยื่อเป็นส่วนน้อยไม่ถึง 40 ราย แต่รายงานจาก Huntress บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์พบ MSP ประมาณ 30 รายที่เป็นเหยื่อ และในจำนวนนี้ก็สร้างผลกระทบกับลูกค้ามากกว่า 1,000 บริษัทแล้ว
ทาง Kaseya ขอความช่วยเหลื่อจาก FireEye ให้เข้ามาตรวจสอบช่องโหว่และจัดการก่อนจะเปิดบริการส่วน SaaS ขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับการตรวจสอบโค้ดโดยผู้เชี่ยวชาญภายนอก โดยหลังจากเปิดบริการฟีเจอร์บางส่วนอาจจะหายไปเพื่อลดความเสี่ยง
ที่มา - The Hacker News, Bleeping Computer, Kaseya
ภาพหน้าจอ Keseya VSA |
# Yahoo! Japan ปิดดีล 1.785 แสนล้านเยน ซื้อสิทธิใช้เครื่องหมายการค้า Yahoo! เต็มรูปแบบในญี่ปุ่น
Yahoo! Japan ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทลูกของ Z Holdings ที่มี SoftBank เป็นเจ้าของ ประกาศบรรลุข้อตกลงในการใช้ไลเซนส์เครื่องหมายการค้า Yahoo! และ Yahoo! Japan ในญี่ปุ่น
ในข้อตกลงนี้ Yahoo! Japan จะยกเลิกข้อตกลงในการใช้เครื่องหมายการค้าเดิม ที่ต้องจ่ายค่ารอยัลตี้รายปี พร้อมข้อกำหนดต่าง ๆ เปลี่ยนเป็นการซื้อสิทธิมูลค่า 1.785 แสนล้านเยน ทำให้ Yahoo! Japan มีความคล่องตัวในการนำเครื่องหมายการค้า Yahoo! นี้มาใช้กับบริการต่าง ๆ ในเครือได้ง่ายขึ้น
ข้อตกลงนี้จะเริ่มมีผลหลังดีล Verizon ขาย Yahoo และบริษัทในเครือให้กับบริษัทการลงทุน Apollo เสร็จสิ้น
ที่มา: Z Holdings |
# Jeff Bezos ลงจากตำแหน่งซีอีโอ Amazon แล้ว, เตรียมท่องอวกาศ 20 ก.ค.
วันนี้ (5 กรกฎาคม) Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon ลงจากตำแหน่งซีอีโอตามที่ประกาศไว้เมื่อต้นปี โดยซีอีโอคนใหม่ของ Amazon คือ Andy Jassy ซึ่งก่อนหน้านี้มีตำแหน่งเป็นซีอีโอของ AWS อยู่แล้ว (ประวัติของ Andy Jassy ซีอีโอคนใหม่ของ Amazon)
หลังจากนี้ Bezos จะไปทำงานอื่นๆ คือกองทุน Day 1 Fund, the Bezos Earth Fund ไปจนถึงธุรกิจอื่นอย่าง Blue Origin และ The Washington Post โดยวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ เขาจะออกท่องอวกาศกับจรวด New Shepard ของ Blue Origin |
# รัฐบาลเมียนมาสั่งโอเปอเรเตอร์ติดตั้งระบบดักข้อมูล, ห้ามผู้บริหารออกนอกประเทศ
สำนักข่าว Reuters รายงานว่าบริษัทโทรคมนาคมหลายแห่งในเมียนมา ได้รับคำสั่งลับจากรัฐบาลทหารเมียนมา ห้ามผู้บริหารระดับสูงเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าเป็นผู้บริหารชาวเมียนมาหรือชาวต่างชาติก็ตาม
นอกจากนี้ บริษัทโทรคมนาคมเหล่านี้ยังได้รับคำสั่งให้ติดตั้งระบบดักจับข้อมูล โดยมีกำหนดว่าต้องเสร็จภายในวันที่ 5 กรกฎาคม (วันนี้) ซึ่งรัฐบาลทหารมีแรงกดดันอย่างต่อเนื่องให้บริษัทเหล่านี้ติดตั้งระบบดักจับข้อมูลให้เสร็จโดยเร็ว
เมียนมามีโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือรายใหญ่ 4 ราย ได้แก่
MPT รัฐวิสาหกิจ ที่ร่วมลงทุนกับ KDDI และ Sumitomo ของญี่ปุ่น
Telenor จากนอร์เวย์
Ooredoo จากกาตาร์
Mytel ของกองทัพเมียนมา ร่วมลงทุนกับ Viettel ของกองทัพเวียดนาม
โอเปอเรเตอร์ทั้ง 4 รายไม่แสดงความเห็นต่อข่าวของ Reuters แต่ Telenor เพิ่งประกาศลงหน้าเว็บของบริษัทเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ว่ากำลังประเมิน "ทางเลือก" ต่างๆ ที่เป็นไปได้ ถึงแม้ไม่ได้บอกตรงๆ แต่ก็น่าจะตีความได้ว่ารวมถึงการถอนตัวออกจากตลาดเมียนมาด้วย
หน้าเว็บ Mytel โอเปอเรเตอร์ของกองทัพเมียนมา
ที่มา - Reuters |
# OnePlus จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า OnePlus Pad ในยุโรป เตรียมบุกตลาดแท็บเล็ต
OnePlus จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า OnePlus Pad บนเว็บไซต์สำนักงานลิขสิทธิ์ทางปัญญาแห่งสหภาพยุโรปแล้ว (EUIPO) ดูจากชื่อเดาได้ไม่ยากว่าอาจเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นแรกของบริษัทเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่มีรายละเอียดอื่นเพิ่มเติม
OnePlus ควบรวมองค์กรกับ Oppoแล้วในปีนี้ มีสถานะเป็นแบรนด์ลูก เตรียมควบรวมบางแผนก แต่ยังขายอุปกรณ์เป็นแบรนด์แยกอยู่ ปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์ทั้งมือถือหลากหลายรุ่น เช่น สมาร์ททีวี หูฟังไร้สาย และสมาร์ทวอทช์ และจากข่าวนี้คาดว่าผลิตภัณฑ์ต่อไปน่าจะเป็นแท็บเล็ต
ที่มา - EUIPO |
# ttb (TMB+Thanachart) ประกาศรวมระบบธนาคารสำเร็จ แต่คนใช้มากจนแอปใช้งานไม่ได้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาธนาคาร ttb ที่เกิดจากการรวมตัว TMB และธนชาตประกาศปิดบริการจำนวนมากเพื่อรวมระบบเข้าด้วยกัน ล่าสุดวันนี้ทางธนาคารก็ประกาศรวมระบบสำเร็จเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้มีคนใช้งานมากจนแอป ttb touch และเว็บ ttbdirect ไม่สามารถใช้งานได้
ผมทดสอบทั้งสองช่องทางพบว่าแอปไม่ตอบสนองเมื่อใส่ PIN ขณะที่ตัวเว็บ ตอบสนองค่อนข้างช้าแต่ยังพอล็อกอินได้
ทางธนาคารแนะนำให้ลูกค้าใช้งานผ่านตู้เอทีเอ็มชั่วคราว
ที่มา - ttb |
# กรรมาธิการยุโรป เตือน Apple อย่าอ้างความปลอดภัย กีดกันแอปสโตร์อื่นบน iOS
Margrethe Vestager ประธานกรรมาธิการต่อต้านการผูกขาดแห่งสหภาพยุโรป ที่ก่อนหน้านี้พูดถึงการเตรียมออกร่างกฎหมายให้ Apple ต้องอนุญาตให้มีแอปสโตร์อื่นนอกจากของ Apple เองบน iOS เพื่อให้การแข่งขันทางการค้าเป็นไปได้อย่างเท่าเทียมมากขึ้น
Apple ได้ออกรายงานโต้แย้งว่าการเปิดให้โหลดแอปนอก แอปสโตร์ของ Apple เอง เป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการใช้งาน iOS และที่ Apple ต้องทำเช่นนี้ เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แถม Erik Neuenschwander หัวหน้าฝ่ายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานของแอปเปิล ยังออกมาย้ำอีกรอบว่าเป็นแนวทางของ iOS เป็นข้อจำกัดที่ไม่เหมือนระบบปฏิบัติการอื่น
ล่าสุด Vestager ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ระบุเพิ่มเติมว่าเห็นด้วยถึงความสำคัญการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ แต่ระบุว่า Apple ไม่ควรนำเหตุผลนี้มาเป็นการกีดกันคู่แข่ง (“it's not a shield against competition”) พร้อมระบุว่าการให้ลูกค้าโหลดแอปแบบ sideload หรือจากแอปสโตร์อื่น ไม่จำเป็นต้องเป็นการสูญเสียความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวเสมอไป
Vestager ระบุว่าร่างกฎหมายของเธอยังเปิดกว้างถึงให้มีการถกเถียงและแก้ไขได้ เพราะยังต้องรอความเห็นจากประเทศสมาชิกและหน่วยงานกฎหมายของยุโรปอีกมาก ก่อนจะผ่านไปเป็นกฎหมายได้จริง และเธอก็คิดว่าน่าจะหาจุดร่วมกับ Apple ได้ในอนาคต
ที่มา - Reuters |
# เซิฟเวอร์ Apex Legends ถูกแฮก ใส่ข้อความให้ทีมงานซ่อมเกม Titanfall ภาคแรก
เมื่อคืนนี้ เกม Apex Legends ถูกแฮกเกอร์แฮกเซิฟเวอร์ Matchmaking หรือเซิฟเวอร์จับคู่ผู้เล่น โดยแฮกเกอร์ใส่ข้อความและเว็บไซต์ “SaveTitanFall.com” ในหน้าเมนู และหน้า Matchmaking ในเกม ก่อนที่ทีมงานจะแก้ไขได้สำเร็จ และทวิตยืนยันว่าจัดการปัญหาเซิฟเวอร์ได้แล้ว เมื่อช่วงเก้าโมงเช้าที่ผ่านมา
เกม Titanfall ภาคแรกไม่มีโหมดเนื้อเรื่อง ออกวางขายในปี 2014 ปัจจุบันยังมีผู้เล่นอยู่ แต่เกมประสบปัญหาแฮกเกอร์รันสคริปต์ที่ทำให้ผู้เล่นที่ยังเล่นอยู่ไม่สามารถเล่นเกมได้ และถูกเตะไปยังหน้าเดสก์ท็อป ตั้งแต่ปี 2019
ทีมงาน Respawn ที่น่าจะยุ่งกับการพัฒนา Apex Legends อยู่ ไม่ได้กลับไปแก้ปัญหาเกม Titanfall เสียที ทำให้ผู้เล่นที่ยังเล่นอยู่ ส่งเสียงเรียกร้องโดยการแฮกเกม Apex Legends เพราะถ้าจะวางขาย Titanfall ภาคแรกอยู่ ก็ควรจะดูแลให้อยู่ในสภาพที่ยังเล่นได้ด้วย แต่การไปเรียกร้องโดยสร้างความเดือดร้อนให้ผู้เล่นเกมอื่น ก็อาจจะไม่ถูกวิธีนัก
แฟนเกมระดับฮาร์ดคอร์ ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังเล่นเกมที่ตัวเองรัก มีให้เห็นเสมอ แน่นอนว่าถ้า Titanfall ไม่วางขายบน Origin หรือสโตร์อื่นๆ แล้ว ทีมงานอาจระบุว่า Titanfall เป็นเกมที่เลิกซัพพอร์ตแล้วได้ แต่เมื่อเกมยังวางขายอยู่ การปฏิเสธการรับผิดชอบจึงอาจทำได้ไม่เต็มปาก และทำให้เกิดเหตุการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ขึ้น
ที่มา - The Verge |
# [Financial Times] บริษัทจีนทำระบบติดตามผู้ใช้ iPhone เพื่อทำโฆษณา แต่แอปเปิลปฏิเสธไม่ให้อัพเดตแอป
เป็นอีกความพยายามร่วมกันของบริษัทเทคโนโลยีจีน ที่จะติดตามข้อมูลผู้ใช้งาน iPhone เพื่อทำการโฆษณาเจาะกลุ่มได้ แต่ก็ต้องล้มเหลว โดย Financial Time รายงานว่า Baidu, Tencent และ TikTok ของ ByteDance ทำงานร่วมกับบริษัทสองแห่งในปักกิ่งเพื่อพัฒนาวิธีการใหม่ในการติดตาม iPhone สำหรับทำโฆษณาที่เรียกว่า CAID สามารถติดตามผู้ใช้ได้ แม้ผู้ใช้งานจะตั้งค่าปฏิเสธไม่ให้เข้าถึง Advertising Identifier (IDFA)
ทางบริษัทจีนพยายามทดสอบระบบมาตั้งแต่เดือนมีนาคม และความเคลื่อนไหวล่าสุดคือ แอปเปิลปฏิเสธการอัปเดตแอปจีนใน App Store หลายแอป ที่ตรวจพบว่ามีระบบ CAID โดย ByteDance, Tencent และ Baidu ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นอะไรเพิ่มเติมหลังแอปเปิลปฏิเสธไม่ให้อัพเดตแอป
แอปเปิลไม่ได้ระบุถึงตัว CAID โดยตรงแต่ย้ำว่าข้อกำหนดและแนวทางปฏิบัติของ App Store มีผลบังคับใช้อย่างเท่าเทียมกันกับนักพัฒนาทั่วโลก และ แอปที่ไม่ปฏิบัติตามจะถูกปฏิเสธบนแพลตฟอร์ม
ระบบ CAID เริ่มต้นได้รับการสนับสนุนโดยหน่วยงานโฆษณาในจีน ที่มีสมาชิกกว่า 2,000 คนอย่าง China Advertising Association และสำนักวิจัย China Academy of Information and Communications Technology ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอีกที
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีท่าทีชัดเจนจากรัฐบาลจีนว่าพยายามสนับสนุนการใช้ระบบ CAID อย่างเต็มที่ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริง แอปเปิลก็จะถูกจีนกดดันอีกครั้ง และเป็นอีกภัยคุกคามความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานชาวจีน
iOS 14 มีจุดขายตรงระบบความเป็นส่วนตัว นอกจากระบบ Advertising Identifier (IDFA) แล้ว ยังมี Private Relay หรือบริการแบบ VPN ที่ออกแบบมาเพื่อปกปิดข้อมูลการท่องเว็บ ไม่ให้ ISP และผู้ลงโฆษณาเข้าถึงข้อมูลเพื่อทำการตลาดเจาะกลุ่มได้ แต่ฟังก์ชั่นนี้ก็ไม่เปิดใช้งานในจีน
ที่มา - Financial Times |
# MLPerf ออกผลทดสอบรุ่น 1.0: NVIDIA เร็วสุดที่ซื้อได้, Graphcore โชว์ประสิทธิภาพต่อราคา, Google โชว์ TPUv4
MLCommons หน่วยงานกลางสำรวจประสิทธิภาพคอมพิวเตอร์ด้าน machine learning และปัญญาประดิษฐ์ออกรายงานเวอร์ชั่น 1.0 โดยมีผู้เข้าร่วมน่าสนใจได้แก่ NVIDIA ที่ส่งเครื่อง DGX-A100 เข้าทดสอบ, อินเทลส่ง Xeon Platinum 8380, กูเกิลส่ง TPUv4 ที่ยังไม่เปิดให้บริการทั่วไป, และ Graphcore สตาร์ตอัพปัญญาประดิษฐ์ส่งเครื่อง IPU-POD เข้าจัดอันดับ
กูเกิลโชว์ประสิทธิภาพของ Google TPUv4 แสดงให้เห็นว่าเครื่องขนาดใหญ่ที่สุดประสิทธิภาพดีกว่า NVIDIA GCX-A100 ในหลายหมวด เช่น ResNet สำหรับจัดหมวดหมู่ภาพอาจจะดีกว่า A100 ถึง 1.74 เท่าตัว อย่างไรก็ดี TPUv4 ยังไม่ได้เปิดบริการบน Google Cloud แต่อย่างใด ตอนนี้คนทั่วไปสามารถใช้งานได้เฉพาะ TPUv2 และ TPUv3 รวมถึงเครื่องมี่ใช้ทดสอบมีขนาดถึง 1,728 ซีพียู และ TPU อีก 3,456 ตัว โดยประสิทธิภาพนี้ดีกว่า TPUv3 ในการทดสอบ MLPerf 0.7 เฉลี่ย 1.7 เท่า
NVIDIA โชว์ประสิทธิภาพว่าเป็นเครื่องประสิทธิภาพสูงสุดที่หาซื้อได้จริง และประสิทธิภาพดีกว่าคู่แข่งอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันอย่างทิ้งห่าง ในการรันฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ 8 รูปแบบ
น้องใหม่อย่าง Graphcore ที่เพิ่งตั้งบริษัทเมื่อปี 2016 ส่งผลทดสอบจากเครื่อง IPU-POD16 และ IPU-POD64 แต่พยายามแสดงประสิทธิภาพต่อราคา โดยเครื่อง DGX-A100 ขนาด 640GB น่าจะมีราคาประมาณ 300,000 ดอลลาร์ ใช้เวลาฝึก ResNet-50 28.77 นาที ขณะที่เครื่อง IPU-POD16 ราคา 149,995 ดอลลาร์ใช้เวลาฝึก 37.12 นาที คิดออกมาเป็นประสิทธิภาพต่อราคาที่ 1.6 เท่าตัว ขณะที่การฝึกโมเดลบางแบบเช่น BERT จะทำให้ประสิทธิภาพต่อราคาลดลงแต่ก็ยังนำอยู่
ที่มา - MLCommons, NVIDIA, Google Cloud, Graphcore |
# LG เตรียมวางขาย LG QNED ทีวีเทคโนโลยี mini LED รุ่นแรกของบริษัท ภายในเดือนกรกฎาคมนี้
LG เตรียมวางจำหน่ายทีวี LG QNED เทคโนโลยีพิกเซลแบบ Quantum Dot NanoCell ให้สีสดขึ้นของ LG ผสานกับไฟ backlight แบบ mini LED เทคโนโลยีลดขนาดไฟ LED ลง เพื่อให้แบ่งโซนลดแสง (local dimming) ได้ดีขึ้น และให้สีดำสนิทกว่า LED ทั่วไป แม้ยังไม่ดำสนิทเท่า OLED แต่ก็ปลอดภัยจากปัญหาพิกเซลค้างหรือ burn-in ของ OLED เช่นกัน
ราคา LG QNED ยังแรงพอสมควร รุ่น 4K รหัส QNED90 ขนาด 65 นิ้ว ขายในราคา 1,999 ดอลลาร์, รุ่น 75 นิ้ว ที่ 2,999 ดอลลาร์ และ รุ่น 86 นิ้ว ที่ราคา 3,999 ดอลลาร์
ส่วนรุ่น 8K รหัส QNED95 และ QNED99 ขนาด 65 นิ้ว อยู่ที่ 3,499 ดอลลาร์ 75 นิ้ว อยู่ที่ 4,799 และ รุ่น 86 นิ้ว ราคาพุ่งไปถึง 6,499 ดอลลาร์ แต่รุ่นสูงสุดนี้จะมีไฟ mini LED ถึง 30,000 ดวง แบ่งเป็นโซน local dimming ถึง 2,500 โซน
ทุกรุ่นจะมีพอร์ต HDMI 2.1 รองรับคอนเทนต์ 4K 120fps (มี variable refresh rate หรือ VRR เฉพาะรุ่น 4K) รองรับมาตรฐานภาพ HDR10, HLG และ Dolby Vision รองรับมาตรฐานเสียง Dolby Atmos และรัน webOS 6.0
LG ยังไม่ระบุวันวางจำหน่ายที่แน่นอนของ LG QNED ในแต่ละประเทศ ระบุไว้แค่วางจำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือภายในเดือนกรกฎาคมนี้ และจะวางจำหน่ายในภูมิภาคอื่นตามมาในอีก 2-3 สัปดาห์
ที่มา - LG via ArsTechnica |
# Doom Eternal ออกอัพเดต Ray Tracing บนพีซี-คอนโซล, ประกาศทำ Horde Mode
Doom Eternal เป็นเกมเด่นอีกเกมของปี 2020 ที่ประสบความสำเร็จทั้งเสียงวิจารณ์และยอดขาย (ทำรายได้ 450 ล้านดอลลาร์ในช่วง 9 เดือนแรก) จนต้องออก DLC เพิ่มถึง 2 ภาค
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวของ Doom Eternal สองเรื่อง อย่างแรกคือ id Software ออกอัพเดตสำหรับคอนโซล next-gen ให้รองรับ ray tracing บน PS5/Xbox Series X (แต่ไม่รวม Xbox Series S) สามารถเล่นได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080p/60FPS และยังมีโหมดกราฟิก 120FPS ที่ความละเอียด 1800p (ไม่เปิด ray tracing) แถมกรณีของการเล่นบน PS5 ก็รองรับ adaptive trigger บนจอย DualSense อีกด้วย
สำหรับเวอร์ชันพีซี อัพเดตตัวนี้ก็รองรับ ray tracing เช่นกัน และรองรับ DLSS บนการ์ดจอ NVIDIA เพิ่มด้วย เว็บไซต์ Eurogamer ให้ความเห็นว่าการรองรับ DLSS ทำให้การ์ดรุ่นล่างๆ อย่าง GeForce RTX 2060 ได้ประโยชน์จากการยกระดับกราฟิก โดยไม่ต้องใช้เครื่องราคาแพงจนเกินไป
ประกาศอย่างที่สองคือ id Software ระบุว่าเลิกพัฒนาโหมดมัลติเพลเยอร์ Invasion Mode ที่เคยประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ (เป็นโหมดที่ให้ผู้เล่นอีกคนรับบทเป็นปีศาจมาสู้กับผู้เล่น) ด้วยเหตุผลจากข้อจำกัดที่ทีมพัฒนาต้องทำงานจากที่บ้าน แต่จะนำทรัพยากรมาสร้างโหมดใหม่ Horde Mode สำหรับผู้เล่นคนเดียวแทน ซึ่งก็ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของโหมดนี้ว่าคืออะไรกันแน่ (แต่จากชื่อก็น่าจะเดาได้กันได้ว่า เป็นโหมดที่มีศัตรูจำนวนมากๆ)
ที่มา - Bethesda, Eurogamer, Kotaku |
# กลับมาตามคำเรียกร้อง กรุงไทยเปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นยิ่งออมยิ่งได้ บนวอลเล็ต สบม. ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ลงทะเบียนซื้อผ่านวอลเล็ตได้แล้ววันนี้
ใครที่กำลังมองหาช่องทางลงทุนปลอดภัย ได้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากประจำ และสามารถลงทุนได้ง่ายผ่านช่องทางดิจิทัล วันนี้กลับมาตามคำเรียกร้องแล้วสำหรับพันธบัตรออมทรัพย์จากธนาคารกรุงไทย รุ่นยิ่งออมยิ่งได้ เป็นการเปิดขายพันธบัตรครั้งที่ 4 หลังการเปิดขาย ครั้งแรกได้รับการตอบรับล้นหลาม ขายหมดภายในไม่กี่นาที
พันธบัตรฯ รุ่นยิ่งออมยิ่งได้ จะเริ่มเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 เวลา 8.30 น. ถึง 23 กรกฎาคม 2564 เวลา 15.00 น. และเพื่อไม่ให้เป็นการพลาดโอกาสสำคัญ นักลงทุนสามารถลงทะเบียนใช้งาน วอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชั่นเป๋าตังได้แล้ววันนี้
ก่อนจะเข้าเรื่องช่องทางลงทะเบียนจับจองซื้อพันธบัตร เรามาดูความโดดเด่นของ พันธบัตรยิ่งออมยิ่งได้ กันก่อน
พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นยิ่งออมยิ่งได้ ให้ดอกเบี้ย ทุก 3 เดือน
เนื่องด้วยนโยบายของกระทรวงการคลังในการนําเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อยกระดับหน่วยงานรัฐ ธนาคารกรุงไทยจึงพัฒนาช่องทางการซื้อขายพันธบัตรด้วยวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง โดยวอลเล็ต สบม. นี้ออกแบบการซื้อขายให้เป็นแบบรวมศูนย์ ซื้อขายแล้วมีผลทันที เมื่อซื้อขายพันธบัตรแล้ว ข้อมูลการถือครองจะแสดงให้เห็นในวอลเล็ตทันที ไม่ต้องรอ 15 วันเหมือนที่ผ่านมา
พันธบัตรออมทรัพย์ ยิ่งออมยิ่งได้ วงเงินจำหน่าย 10,000 ล้านบาท เปิดขายขั้นต่ำที่ 100 บาท ลงทุนสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท เปิดโอกาสให้เข้าถึงการลงทุนได้อย่างเท่าเทียม ให้ดอกเบี้ยสูงสุด 2.2% ต่อปี นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าการฝากเงินไว้ในธนาคารเฉยๆ ที่สำคัญคือ ให้ดอกเบี้ยไปใช้เลยทุก 3 เดือน ปีละ 4 งวด ถือเป็นครั้งแรกของวงการพันธบัตรไทยเลยก็ว่าได้
ช่องทางลงทะเบียน
เริ่มจากดาวน์โหลดแอป เป๋าตัง
ทำการลงทะเบียนแอปเป๋าตังด้วยการถ่ายรูปบัตรประชาชนและสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน
ทำการลงทะเบียนวอลเล็ตโดย เลือกเมนูวอลเล็ต สบม. แล้วถ่ายรูปบัตรประชาชน ยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า และกรอกข้อมูลตามกฎหมายการลงทุน
เมื่อลงทะเบียนวอลเล็ตเรียบร้อยแล้ว สามารถเติมเงินเข้าวอลเล็ตได้ทันที เติมได้ทั้งจากธนาคารกรุงไทยเองและธนาคารอื่นๆ
ในการซื้อพันธบัตร เข้าที่เมนู วอลเล็ต สบม. เลือกซื้อ/ขาย พันธบัตร กรอกจำนวนเงิน สั่งซื้อพร้อมรับสลิปดิจิทัลได้ทันที
สรุป
พันธบัตรออมทรัพย์ ยิ่งออมยิ่งได้ ถือเป็นอีกทางเลือกการลงทุนที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มลงทุนครั้งแรก โดยเฉพาะคนยุคนี้ที่ชินกับการทำธุรกรรมบนมือถือแล้ว เพราะลงทุนได้เพียงหลักร้อย นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากเป็นพันธบัตรรัฐบาล
สรุปช่องทางลงทะเบียนและซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ ยิ่งออมยิ่งได้ กันอีกครั้ง เปิดขายอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 เวลา 8.30 น. |
# Amazon จับมือ Jeep ดันแพลตฟอร์ม Fire TV สู่รถยนต์ ผู้โดยสารเบาะหลังดูหนังในรถได้
อุปกรณ์สตรีมมิ่งในตระกูล Amazon Fire TV (ประกอบด้วย Fire TV Stick, กล่อง Cube, สมาร์ททีวีที่ฝังฟีเจอร์มาเลย) ได้รับความนิยมอย่างสูงในสหรัฐอเมริกา จากการขายผ่านช่องทางของ Amazon เอง
Daniel Rausch หัวหน้าฝ่ายอุปกรณ์บันเทิงของ Amazon ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Protocol เล่าว่ายอดขายของ Fire TV พุ่งสูงมากในช่วงเทศกาล Amazon Prime Day รอบล่าสุด โดย Fire TV Stick 4K เป็นสินค้าที่ขายดีอันดับหนึ่ง ยอดขายสมาร์ททีวีก็เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์
ในฝั่งซอฟต์แวร์ การปรับหน้า UI ของ Fire TV ทำให้อัตราการใช้งานเพิ่มขึ้น และการที่คนอยู่บ้านในช่วงโรคระบาด ก็นิยมใช้แอพข่าวสารท้องถิ่นกับแอพกลุ่มฟิตเนสมากขึ้นมาก
เป้าหมายต่อไปของ Amazon คือนำแพลตฟอร์ม Fire TV ไปยังหน้าจอในรถยนต์ (ภายใต้ชื่อ Amazon Fire TV for Auto) ผู้โดยสารที่นั่งเบาะหลังจะสามารถดูภาพยนตร์และซีรีส์ผ่าน Fire TV ในจอหลังของรถยนต์ได้ บริษัทเพิ่งเซ็นสัญญากับ Stellantis (บริษัทที่เกิดจากการควบรวมของ Fiat-Chrysler และ Peugeot-Citroën) และจะเริ่มใช้กับรถยนต์แบรนด์ Jeep Wagoneer รุ่นปี 2022 เป็นลำดับแรก
ตัวอย่างภาพหน้าจอ Fire TV ในรถยนต์ Jeep Wagoneer
ที่มา - Protocol |
# พบแอพแอนดรอยด์ 9 ตัวแอบดักข้อมูล Facebook Login, กูเกิลถอดจาก Play Store แล้ว
บริษัทความปลอดภัย Dr. Web ค้นพบว่ามีแอพแอนดรอยด์จำนวน 10 ตัว (9 ตัวอยู่บน Play Store) แอบดักข้อมูล Facebook Login ของผู้ใช้งาน รูปแบบการทำงานของแอพเหล่านี้คือพยายามให้ผู้ใช้ล็อกอินบัญชี Facebook เพื่อปิดโฆษณาหรือปลดล็อคฟังก์ชันบางอย่าง แล้วดักข้อมูลล็อกอินไปใช้งานต่อ
แอพตัวสำคัญคือแอพแต่งภาพชื่อ PIP Photo ที่มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 5 ล้านครั้ง แต่ก็มีแอพตัวอื่นๆ เช่น แอพแต่งภาพ Processing Photo, แอพลบไฟล์ขยะ Rubbish Cleane, แอพดูดวง Horoscope Daily, แอพฟิตเนส Inwell Fitness ซึ่งทั้งหมดมาจากนักพัฒนาที่แตกต่างกันไป แต่ใช้เทคนิคเดียวกัน
วิธีการของแอพเหล่านี้น่าสนใจตรงที่ฟอร์มล็อกอิน Facebook เป็นฟอร์มของจริง (เรียก www.facebook.com/login.php บน WebView) แต่จะโหลดจาวาสคริปต์จากเซิร์ฟเวอร์ขึ้นมาใน WebView เดียวกันเพื่อดักรหัสผ่านที่กรอกไปยังแอพโทรจันอีกตัว เมื่อผู้ใช้ล็อกอินสำเร็จ โทรจันจะดึงคุกกี้จากเซสชันที่ล็อกอินสำเร็จแล้วไปใช้งานด้วย
Dr.Web แจ้งข้อมูลนี้ไปยังกูเกิล ตอนนี้แอพถูกลบออกจาก Play Store และบัญชีนักพัฒนาเหล่านี้โดนแบนหมดแล้ว แต่ยังมีแอพบางตัวที่ยังมีให้ดาวน์โหลดจากเว็บรวมไฟล์อยู่
ที่มา - Dr.Web, Ars Technica |
# Didi ถูกทางการจีนสั่งแอปออกจาก Store เนื่องจากผิดกฎการเก็บข้อมูลผู้ใช้งาน
หน่วยงานจัดการไซเบอร์ของจีน (CAC - The Cyberspace Administration of China) ออกคำสั่งให้แอปสโตร์ทุกแห่ง ถอดแอป Didi ของจากสโตร์ โดยระบุว่าแพลตฟอร์มเรียกรถรายใหญ่ของจีนนี้ เก็บข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานไว้อย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวออกคำสั่งให้ Didi แก้ไขการจัดเก็บข้อมูลให้ถูกต้อง ตามข้อกำหนดการปกป้องข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งาน แต่ไม่ได้ระบุว่า Didi ทำผิดอย่างไรบ้าง
แพลตฟอร์มเรียกรถ Didi มีผู้ใช้งานในจีน 377 ล้านบัญชี และบริษัทเพิ่งไอพีโอเข้าตลาดหุ้นอเมริกา โดยถือเป็นไอพีโอที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทจีนในอเมริกา นับตั้งแต่ Alibaba ในปี 2014
ตัวแทนของ Didi ได้ชี้แจงต่อคำสั่งดังกล่าวผ่านบัญชี Weibo ว่าบริษัทจะถอดแอปออกตามคำสั่ง ส่วนผู้ใช้งานที่โหลดแอปอยู่ก่อนแล้วยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
ที่มา: The Verge |
# Riot Games แจกเพลงฟรี 37 เพลง ให้สตรีมเมอร์ใช้โดยไม่ต้องกังวลปัญหาลิขสิทธิ์
Riot Games ต้นสังกัดของ League of Legends, Valorant และเกมอื่นๆ เปิดตัวอัลบั้มเพลง Sessions: Vi ที่มีเพลงฟังสบาย 37 เพลง เป็นเพลงแบบไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมด (royalty-free) สตรีมเมอร์สามารถนำไปใช้ประกอบการสตรีมได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าคลิปจะถูกลบจากระบบจับลิขสิทธิ์เพลง
โครงการ Sessions เป็นโครงการที่ Riot Games ตั้งใจทำมาเพื่อแก้ปัญหานี้ของสตรีมเมอร์ โดยอัลบั้มแรกใช้ชื่อว่า Sessions: Vi นำชื่อมาจากตัวละคร Vi ในเกม LoL แต่ละแทร็คเป็นผลงานของศิลปิน 37 คนแตกต่างกันไป และ Riot บอกว่าจะทำเพิ่มอีก
เพลงมีทั้งเวอร์ชันเป็นคลิปพร้อมมิวสิควิดีโอแอนิเมชันบน YouTube, เวอร์ชันบนบริการเพลงสตรีมมิ่งแทบทุกตัว (Spotify, YouTube Music, Apple Music, Amazon Music, Deezer) และสามารถดาวน์โหลดไฟล์อัลบั้มเต็มไปใช้ได้อย่างเสรี จะนำไปใช้ในงานอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเกมของ Riot เลยก็ได้ ทาง Riot บอกว่าถ้าใส่ชื่อศิลปินกำกับไว้ด้วยก็จะขอบคุณมาก แต่จะไม่ใส่เครดิตอะไรเลยก็ได้เช่นกัน
ที่มา - Riot Games, The Verge |
# FTC ยื่นฟ้อง Broadcom ข้อหาผูกขาดชิปสำหรับอุปกรณ์บรอดแบนด์และ set-top box
กรรมการด้านการค้าของสหรัฐหรือ FTC ประกาศยื่นฟ้อง Broadcom ในข้อหาผูกขาดตลาดอุปกรณ์บรอดแบนด์และชิปสำหรับ set-top box ที่ใช้กับทีวี
FTC ระบุว่า Broadcom ใช้วิธีทำ exclusive deal ร่วมกับผู้ขายสินค้าและผู้ให้บริการเพื่อกีดกันไม่ให้ซื้อชิปจากคู่แข่งตั้งแต่ปี 2016 แล้วอย่างน้อย 10 บริษัท ถ้าไม่มีการทำ exclusive deal ลูกค้าจะต้องจ่ายในราคาที่สูงกว่า, เวลาในการส่งสินค้าช้ากว่า และซัพพอร์ตจะตอบช้ากว่า ซึ่ง FTC ระบุว่าเป็นการกระทำผูกขาดอย่างผิดกฎหมาย (illegally monopolizing)
ฝั่ง Broadcom ระบุว่าจะร่วมมือกับ FTC เพื่อหาข้อตกลงกันต่อไป และยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ซึ่ง Broadcom เองก็เคยทำข้อตกลงกับฝั่งอียูในลักษณะเดียวกันเมื่อปลายปีที่แล้วที่ระบุว่าจะเลิกผลักดัน exclusive deal ภายในระยะเวลา 7 ปีข้างหน้า
ที่มา - FTC, Gizmodo, Engadget |
# เกมสยองขวัญ Dead by Daylight กลับมาฮิต ผู้เล่นบน Steam ทะลุ 1 แสนคน
Dead by Daylight เกมมัลติเพลเยอร์แนวเอาตัวรอด กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง โดยล่าสุดมีผู้เล่นพร้อมกันบน Steam ทะลุหลัก 1 แสนคนแล้ว (ขณะที่เขียนข่าวนี้ประมาณ 70,000) นี่ยังไม่รวมผู้เล่นบนแพลตฟอร์มคอนโซลอื่นๆ ที่ยังไม่มีตัวเลขสถิติด้วย
Dead by Daylight เป็นผลงานของสตูดิโอแคนาดา Behaviour Interactive วางจำหน่ายเมื่อปี 2016 เป็นเกมมัลติเพลเยอร์แบบ 1v4 (1 คนเป็นฆาตรกร อีก 4 คนต้องเอาชีวิตรอด) และค่อนข้างมีชื่อเสียงจากการนำตัวละครในเกม-ภาพยนตร์สยองขวัญหลายๆ เรื่อง (เช่น Evil Dead, Scream, Resident Evil) มาอยู่ในเกม
ช่วงหลังเราเริ่มเห็นเกมออนไลน์เก่าๆ หลายเกมกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เช่น Team Fortress 2 ที่มีผู้เล่นพร้อมกัน 150,000 คน
ที่มา - Kotaku |
# ซีอีโอใหม่ Qualcomm บอกจะสู้กับ Apple Silicon ด้วยบริษัท Nuvia อดีตทีมออกแบบชิปแอปเปิล
Cristiano Amon ซีอีโอคนใหม่ของ Qualcomm (รับตำแหน่ง 1 กรกฎาคม) ให้สัมภาษณ์กับ Reuters เผยแผนการในอนาคตของบริษัท โดยบอกว่าจะต่อกรกับ Apple Silicon ด้วยบริษัทออกแบบชิป Nuvia ที่ซื้อกิจการมาเมื่อต้นปีนี้
Nuvia เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดย Gerard Williams III อดีตหัวหน้าฝ่ายสถาปัตยกรรมซีพียูของแอปเปิลมายาวนานตั้งแต่ปี 2010 รับผิดชอบการพัฒนาซีพียูตระกูล A Series แทบทุกรุ่น จนลาออกจากแอปเปิลในปี 2019 มาเปิดบริษัทเอง ส่วนผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 คนคือ John Bruno กับ Manu Gulati เคยทำงานด้านสถาปัตยกรรมที่แอปเปิลและกูเกิลมาก่อน
Nuvia ก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาชิป ARM มาใช้กับเซิร์ฟเวอร์ ก่อนโดน Qualcomm ซื้อกิจการซะก่อนในราคาสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์
Amon บอกว่าก่อนหน้านี้ Qualcomm ใช้วิธีซื้อไลเซนส์พิมพ์เขียวซีพียูจาก Arm แต่พบว่าไม่พอแล้ว เพราะเจอการแข่งขันจากแอปเปิลที่ออกแบบชิปเอง การซื้อ Nuvia จึงเป็นทางออก เขาบอกว่าตอนนี้ Qualcomm ยังไม่มีแผนทำชิปสำหรับเซิร์ฟเวอร์ แต่ก็ยินดีขายไลเซนส์ชิปของ Nuvia ให้พาร์ทเนอร์ไปพัฒนาเป็นชิปเซิร์ฟเวอร์ต่อ
ที่มา - Reuters, AnandTech |
# Windows 11 จะเปลี่ยนจอฟ้าแห่งความตาย (BSOD) มาใช้พื้นหลังเป็นสีดำแทน
The Verge ค้นพบว่า Microsoft ปรับดีไซน์ของจอฟ้าหรือ Blue Screen of Death (BSOD) ใน Windows 11 ใหม่ โดยครั้งนี้เลิกใช้สีฟ้าเป็นพื้นหลัง เปลี่ยนมาใช้สีดำแทน ตามหน้าล็อกอออนและชัทดาวน์สีดำของ Windows 11
BSOD ถือว่าอยู่กับ Windows มานานมาก โดยเริ่มใช้ครั้งแรกตั้งแต่ Windows 3.0 เป็น "สีฟ้า" ซึ่งช่วงหลัง BSOD เริ่มปรับปรุงครั้งใหญ่เมื่อ Microsoft เพิ่มหน้าเศร้าเข้ามาใน Windows 8 ปี 2012 ตามด้วยคิวอาร์โค้ดในปี 2016 ส่วน BSOD ของ Windows 11 นี้นอกจากสีแล้วส่วนอื่นก็จะยัคงเหมือน Windows 10
อย่างไรก็ดี Windows 11 พรีวิวปัจจุบันยังไม่ได้เปิดใช้งาน BSOD สีดำ แต่ยังเป็นสีเขียวเนื่องจากเป็น Windows Insider โดย Microsoft เริ่มใช้ BSOD สีเขียวกับ Windows เวอร์ชัน Insider มาตั้งแต่ปี 2016
ที่มา - The Verge |
# [ไม่ยืนยัน] Apple จ่ายเงินให้ Google Cloud เพื่อเช่าพื้นที่สำหรับ iCloud ในปีนี้เพิ่มขึ้น 50%
มีรายงานจาก The Information ระบุว่าแอปเปิลยังเป็นลูกค้ารายสำคัญของ Google Cloud และเพิ่มค่าใช้จ่ายมากขึ้น โดยสำหรับปีนี้คาดว่าแอปเปิลจะจ่ายเงินราว 300 ล้านดอลลาร์ ให้กูเกิล ในการใช้บริการเก็บข้อมูลของผู้ใช้ iCloud เพิ่มขึ้น 50% จากปี 2020
รายงานยังระบุว่าแอปเปิลถือเป็นลูกค้า Google Cloud รายใหญ่ที่สุดในตอนนี้ และทีมงานใน Google Cloud ก็มีรหัสเรียกลูกค้าเพื่อสะท้อนความสำคัญว่า Bigfoot ส่วนลูกค้ารายใหญ่ลำดับรองลงมาคือ ByteDance
บริการ iCloud ของแอปเปิล ใช้ศูนย์ข้อมูลแบบกระจายไปหลายผู้ให้บริการ ทั้งศูนย์ข้อมูลที่เป็นของแอปเปิลเอง และของผู้ให้บริการรายอื่นอย่าง Google Cloud และ AWS ซึ่งผู้ให้บริการรายอื่นจะไม่มีกุญแจ ในการเข้าถึงข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ซึ่งอยู่กับฝั่งแอปเปิล
ที่มา: 9to5Mac |
# Tesla รายงานตัวเลขไตรมาส 2/2021 ผลิตและส่งมอบรถได้มากกว่า 2 แสนคันในไตรมาส เป็นครั้งแรก
Tesla รายงานตัวเลขการผลิตและส่งมอบรถยนต์ ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2021 ผลิตรถยนต์ได้ 206,421 คัน แบ่งเป็น Model 3 และ Model Y 204,081 คัน ส่วน Model S และ Model X ผลิตได้ 2,340 คัน
จำนวนส่งมอบในไตรมาสรวม 201,250 คัน เป็น Model 3 และ Model Y 199,360 คัน และ Model S กับ Model X ผลิตได้ 1,890 คัน
ตัวเลขที่ออกมานี้ Tesla ระบุว่าเป็นครั้งแรกที่บริษัทสามารถผลิตและส่งมอบรถได้มากกว่า 2 แสนคันในไตรมาสเดียว ซึ่งถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของทีมงาน ท่ามกลางความท้าทายด้านซัพพลายเชน และลอจิสติกในสายการผลิตรถยนต์ทั่วโลกเวลานี้
Tesla จะรายงานตัวเลขทางการเงิน และตัวเลขการดำเนินงานของรถยนต์แบบละเอียดอีกครั้งในช่วงปลายเดือน
ที่มา: Tesla |
# โซนี่ปิดสโตร์บนเครื่อง PSP แล้ว แต่ยังซื้อเกม PSP จากเครื่อง PS3/Vita ได้
โซนี่ปิด PlayStation Store บน PSP ตามที่ประกาศไว้ แต่ยังไม่ปิดสโตร์ของ PS Vita และ PS3 ตามที่เปลี่ยนใจทีหลัง
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เจ้าของ PSP ไม่สามารถซื้อเกมดิจิทัลจากเครื่อง PSP ได้อีกต่อไป (แต่ดาวน์โหลดเกมเก่าที่ซื้อไว้แล้วได้ผ่านเมนู Download List)
ที่ต้องเน้นว่า "ไม่สามารถซื้อเกม PSP จากเครื่อง PSP" เป็นเพราะเจ้าของ PSP ยังสามารถซื้อเกม PSP จาก PlayStation Store บน PS3/Vita แล้วไปดาวน์โหลดเล่นบน PSP ได้ด้วย ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่โซนี่ยังเผื่อไว้ให้ลูกค้า
ที่มา - GameInformer |
# OnePlus รวมฐานโค้ด OxygenOS เข้ากับ ColorOS, การันตีอัพเดต OS 3 รุ่น แพตช์ 4 ปี
OnePlus ประกาศทิศทางของ OxygenOS หลังรวมกิจการเข้ากับ Oppo ว่าหลังจากนี้ไป OxygenOS จะใช้ฐานโค้ดเดียวกับ ColorOS ของ Oppo ซึ่งผู้ใช้จะไม่รู้สึกอะไร เพราะเป็นกระบวนการเบื้องหลังทั้งหมด
การรวมฐานโค้ดของ OxygenOS กับ ColorOS ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีกำลังนักพัฒนามากขึ้น ลดความซับซ้อนของการพัฒนาลง ผลคือ OnePlus ประกาศนโยบายการอัพเดตใหม่ที่ยาวขึ้นกว่าเดิม
มือถือเรือธง จะได้อัพเดต OS สามรุ่น และอัพเดตแพตช์ความปลอดภัย 4 ปี (เริ่มจาก OnePlus 8)
Nord/Nord CE จะได้อัพเดต OS สองรุ่น และอัพเดตแพตช์ความปลอดภัย 3 ปี
Nord N Series จะได้อัพเดต OS หนึ่งรุ่น และอัพเดตแพตช์ความปลอดภัย 3 ปี
ส่วนมือถือเรือธงของ OnePlus รุ่นที่ออกก่อน OnePlus 8 จะได้อัพเดต OS สองรุ่น และอัพเดตแพตช์ความปลอดภัย 3 ปีเท่าเดิม
นโยบายใหม่ของ OnePlus จะทำให้กลุ่มเรือธงได้อัพเดตยาว เทียบเท่ากับนโยบายล่าสุดของซัมซุง ที่ใช้อัพเดต OS สามรุ่น และแพตช์ความปลอดภัย 4 ปี (แต่ของซัมซุงรวมไปถึงรุ่นล่างๆ อย่างซีรีส์ A ด้วย)
ที่มา - OnePlus |
# Kaseya VSA ซอฟต์แวร์จัดการเครือข่ายถูกแฮกใส่ Ransomware ผู้ใช้กว่า 200 องค์กรถูกโจมตี
Kaseya VSA ซอฟต์แวร์จัดการระบบไอทีถูกกลุ่มแฮกเกอร์ REvil แฮกและใส่มัลแวร์ลงไปในอัพเดตได้สำเร็จ ทำให้องค์กรจำนวนมากที่ใช้ซอฟต์แวร์จัดการเครือข่ายตัวนี้ถูกเข้ารหัสข้อมูล รวมตอนนี้มีองค์กรตกเป็นเหยื่อแล้วกว่า 200 องค์กร
รายงานระบุว่า REvil เรียกร้องค่าไถ่แต่ละองค์กรไม่เท่ากัน บางองค์กรถูกเรียกค่าไถ่ 5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 160 ล้านบาท แต่บางองค์กรถูกเรียกค่าไถ่ 44,999 ดอลลาร์หรือ 1.5 ล้านบาท
Kaseya VSA เป็นซอฟต์แวร์จัดการระบบไอทีครบวงจร ตั้งแต่การมอนิเตอร์เซิร์ฟเวอร์, อุปกรณ์เครือข่าย, ติดตั้งแพตช์บนไคลเอนต์ โดยนิยมใช้งานในกลุ่มบริษัทผู้ให้บริการจัดการระบบไอที (managed service provider - MSP) ตอนนี้มี MSP ถูกโจมตีแล้วอย่างน้อย 8 ราย
ตอนนี้รายงานพบว่ามัลแวร์ถูกส่งเข้าไปในเซิร์ฟเวอร์และไคลเอนต์ทางอัพเดต "Kaseya VSA Agent Hot-fix." โดยยังไม่แน่ชัดว่าอัพเดตนี้ถูกส่งเข้ามาทางใด ทางแก้ชั่วคราวคือ Kaseya ปิดเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองทั้งหมด และแนะนำให้ MSP ที่ใช้งาน VSA แบบ on-premise ปิดเซิร์ฟเวอร์ด้วยเช่นกัน
ที่มา - ZDNet, Bleeping Computer
ภาพหน้าจอ Kaseya VSA |
# Jim Whitehurst ประธาน IBM ประกาศลงจากตำแหน่ง หลังรับตำแหน่งได้ 14 เดือน จากดีล Red Hat
ไอบีเอ็มประกาศปรับเปลี่ยนตำแหน่งในฝ่ายบริหารของบริษัท โดย Jim Whitehurst จะลงจากตำแหน่งประธานบริษัท (President) ที่เขาได้รับการแต่งตั้งเมื่อต้นปีที่แล้ว และจะรับตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสโดยตรงของซีอีโอ Arvind Krishna ทั้งนี้ Jim เข้ามารับตำแหน่งประธานไอบีเอ็ม จากดีลซื้อกิจการ Red Hat ซึ่งเขาเป็นซีอีโออยู่ และมีส่วนสำคัญในการควบรวมสองกิจการนี้เข้าด้วยกัน
นอกจากนี้ Bridget van Kralingen รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดทั่วโลก ก็ประกาศลงจากตำแหน่ง โดยจะมาดูแลโครงการพิเศษของไอบีเอ็มจนครบกำหนดเกษียณ โดย Rob Thomas รองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจคลาวด์และแพลตฟอร์มข้อมูลจะมารับตำแหน่งนี้ต่อ
ที่มา: ไอบีเอ็ม ผ่าน TechCrunch |
# Robinhood แอปเทรดหุ้นชื่อดัง ยื่นเอกสารไฟลิ่งเตรียมเข้าตลาดหุ้น Nasdaq
แอปเทรดหุ้น Robinhood ได้ยื่นเอกสารไฟลิ่งต่อ กลต. สหรัฐ เพื่อเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นแนสแดคด้วยตัวย่อ HOOD ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับความสนใจมากจากนักลงทุน เนื่องจากมีการเติบโตสูง และเป็นแอปหลักของนักลงทุนในการซื้อขายหุ้นจนเป็นข่าวอย่างกรณี GameStop
จุดเด่นของ Robinhood คือการให้บริการเทรดหุ้นโดยไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย จนทำให้แอปซื้อขายหุ้นรายอื่นต้องทำตาม โดย Robinhood มีรายได้ส่วนใหญ่จากการนำคำสั่งซื้อขายไปขายให้โบรกเกอร์อีกต่อหนึ่ง และรายได้อีกส่วนจากการขายบริการพรีเมียมให้ลูกค้า
เอกสารไฟลิ่งระบุว่า Robinhood มีลูกค้ารายบุคคลราว 18 ล้านบัญชี ปริมาณสินทรัพย์ที่ถือครองมูลค่ารวมมากกว่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์ ผลประกอบการในปี 2020 รายได้รวมเติบโตเป็น 959 ล้านดอลลาร์ เทียบกับปี 2019 ที่ 278 ล้านดอลลาร์ และในปี 2020 บริษัทก็มีกำไรสุทธิ 7.45 ล้านดอลลาร์ เทียบกับปี 2019 ที่ขาดทุน เมื่อแยกโครงสร้างรายได้ 38% มาจากการเทรดออปชั่น 25% มาจากตราสารทุน (หุ้น) และ 17% จากคริปโต
Robinhood คาดว่าจะขายหุ้นเพิ่มทุนมูลค่าราว 100 ล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่มีข้อมูลราคาหุ้นและมูลค่ากิจการ
ที่มา: CNBC |
# [ไม่ยืนยัน] IBM ย้ายระบบอีเมลภายในไม่สำเร็จ พนักงานบางส่วนไม่มีอีเมลใช้หลายวัน
เว็บไซต์ The Register รายงานว่าแผนการย้ายระบบอีเมลภายในของ IBM มีปัญหาถึงขั้นพนักงานใช้อีเมลไม่ได้อยู่หลายวัน ต้องหันมาใช้ Slack เป็นการภายในแทน และโฆษกของ IBM ต้องชี้แจงมายัง The Register ด้วยการโทรศัพท์
องค์กรขนาดใหญ่ระดับ IBM มีระบบอีเมลที่ซับซ้อน มีไคลเอนต์หลายตัว เท่าที่ระบุชื่อคือ IBM Notes (Lotus Notes เดิม), IBM Verse ที่เป็นเว็บเมล และ Outlook
ปัญหาเกิดจาก IBM ตัดสินใจขายธุรกิจซอฟต์แวร์หลายตัวให้บริษัทอินเดีย HCL ในปี 2018 และหนึ่งในนั้นคือ Notes ด้วย เท่ากับว่า IBM ไม่ได้เป็นเจ้าของ Notes แล้ว (ชื่ออย่างเป็นทางการในปัจจุบันคือ HCL Notes/Domino) บริษัทจึงไม่อยากเก็บข้อมูลอีเมลภายในไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของ HCL และทำแผนย้ายข้อมูลมาบนเซิร์ฟเวอร์ของ IBM แทน
ตามข่าวบอกว่า IBM เตรียมการย้ายระบบมา 18 เดือน แต่กลับมีปัญหาตอนย้ายทำให้ระบบอีเมลล่ม (ยังไม่มีข้อมูลว่ามีปัญหาอย่างไร) พนักงานบางส่วนใช้อีเมลไม่ได้ราว 4-5 วัน ทำให้การสื่อสารภายในต้องหันมาใช้ระบบแชทผ่าน Slack แทน ข้อมูลจากแหล่งข่าวของ The Register คาดว่าระบบจะกลับมาทำงานได้สมบูรณ์ในวันจันทร์นี้
ที่มา - The Register, The Register
ภาพจาก SuperUser |
# [ลือ] EA จะนำเกมสยองขวัญ Dead Space กลับมารีเมคอีกครั้ง
Dead Space แฟรนไชส์เกมยิงสยองขวัญยุคอวกาศของ EA อาจกลับมาอีกครั้ง โดยมีข่าวยังไม่ยืนยันว่าสตูดิโอ Motive กำลังซุ่มทำเกมเวอร์ชันรีเมค
Dead Space เป็นเกมปี 2008 ที่พัฒนาโดยสตูดิโอ EA Redwood Shores ซึ่งภายหลังกลายมาเป็น Visceral Games มีทั้งหมด 3 ภาคหลัก ลงพีซีและคอนโซลยุค Xbox 360 และ PlayStation 3 ทั้งหมด โดยภาคสุดท้าย Dead Space 3 ออกในปี 2013
อย่างไรก็ตาม Visceral ในยุคหลังเต็มไปด้วยปัญหาหลายอย่าง และ EA ตัดสินใจปิดสตูดิโอนี้ในปี 2017 ชะตากรรมของแฟรนไชส์ Dead Space จึงน่าจะจบสิ้นลง
แต่ล่าสุดมีเว็บเกมหลายแห่งให้ข้อมูลว่า EA ให้สตูดิโออีกแห่งคือ Motive (ที่ทำ Star Wars Battlefront II และ Star Wars: Squadrons พัฒนาเกม Dead Space ภาคใหม่อยู่ คาดว่าจะเป็นการรีเมคเกมภาคแรกใหม่อีกครั้ง
เว็บไซต์ GamesBeat ให้ความเห็นว่าความสำเร็จของ Capcom ในการรีเมค Resident Evil 2 น่าจะมีส่วนให้ EA เล็งเห็นว่ายังมีแฟนๆ เกมสยองขวัญอยู่มาก บวกกับความสำเร็จของเกมเล่นคนเดียว-เน้นเนื้อเรื่องอย่าง Star Wars Jedi: Fallen Order ก็น่าจะช่วยให้ EA เบาใจเรื่องยอดขายไปได้
ที่มา - GamesBeat |
# บริการ Managed Cloud จาก Red Hat เปิดทางให้องค์กรปรับตัวอย่างรวดเร็ว สามารถสร้างสรรค์ได้มากกว่า
โลกธุรกิจในทุกวันนี้ ให้ความสำคัญกับความเร็วเป็นอันดับหนึ่ง องค์กรต้องการลดเวลาที่บริการแต่ละตัวใช้ในการพัฒนา จนถึงนำออกมาให้บริการ (time to value) เพื่อให้ลูกค้าใช้ประโยชน์จากบริการใหม่ๆ ได้ทันที
แนวทางเช่นนี้ทำให้บริการคลาวด์เข้ามาช่วยองค์กรได้มากขึ้น เพราะนักพัฒนาสามารถเข้าถึงเครื่องมือที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอให้ใครมาเซ็ตอัพเครื่องมือต่างๆ ให้เหมือนระบบไอทียุคก่อน
บริการคลาวด์ในยุคแรกๆ คือการย้ายเครื่อง server จาก bare metal หรือ physical server ไปเป็น virtual machine แต่นักพัฒนายังต้องจัดการเครื่องเองทั้งหมด (self-managed) ตั้งแต่บูตเครื่อง ติดตั้งระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ที่จำเป็น ไปถึงการอัพเดตแพตช์ความปลอดภัย บำรุงรักษาฐานข้อมูล ตรงนี้ถือเป็นภาระที่เพิ่มขึ้นเมื่อระบบใหญ่โตและซับซ้อนขึ้นตามระยะเวลา
ในช่วงหลังเราจึงมักจะเห็น “บริการคลาวด์ที่มาพร้อมการจัดการ” (managed cloud service) ที่ช่วยลดภาระของทีมพัฒนา ทำให้นักพัฒนาใช้เทคโนโลยีต่างๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลกับการจัดการฮาร์ดแวร์, บริหาร uptime, หรือวุ่นวายกับการอัพเดตซอฟต์แวร์อีกต่อไป บริการประเภทนี้พร้อมใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาติดตั้งและคอนฟิก รวมถึงค่าใช้จ่ายในระยะยาวอาจจะถูกลงเพราะคิดค่าบริการตามการใช้งานจริง
การเลือกระหว่างบริการทั้ง 2 แบบมีปัจจัยให้พิจารณาหลายอย่าง ทีมพัฒนาบางทีมต้องการปรับแต่งทุกส่วนตามใจ ขณะที่บางกลุ่มต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญมาตัดสินใจแทนและเอาเวลาไปพัฒนาตัวแอปพลิเคชั่นแทน
Red Hat มีบริการให้กับทั้งสองกลุ่ม กลุ่มที่ต้องการปรับแต่งเองอาจใช้บริการในกลุ่ม self-managed และกลุ่มที่ต้องการใช้งานแบบสำเร็จรูปทาง Red Hat ก็เสนอ managed cloud service ให้ได้เช่นกัน
ตัวอย่างข้อดีของบริการแบบ managed cloud ได้แก่
Kubernetes เป็นแพลตฟอร์มคอนเทนเนอร์ที่ทรงพลัง แต่การดูแลชิ้นส่วนแต่ละส่วนเองอาจจะซับซ้อนราวกับจรวดอวกาศ Red Hat เสนอบริการ Kubernetes แบบ managed cloud service ที่เลือกปรับแต่งค่า และเลือกซอฟต์แวร์แวดล้อมให้ผู้ใช้ไว้แล้ว
ระบบจัดการ API (API Management) สำหรับบริหารจัดการ service ต่าง ๆ ขององค์กร ให้เกิดความปลอดภัยในการให้บริการ รวมไปถึงความสามารถในการจัดการเรื่อง สิทธิในการใช้งาน Quota ในการให้บริการ โดยไม่ต้องเสียเวลาในการติดตั้ง และยังรองรับการขยายตัวของบริการที่มากขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดย Red Hat ได้ทำการจัดเตรียม ระบบงานให้ผู้ใช้ไว้แล้ว
การใช้งาน Apache Kafka ที่ปกติแล้วไม่ใช่เพียงการติดตั้งโบรกเกอร์เท่านั้น แต่ต้องการชิ้นส่วนต่างๆ ในการบริหารจัดการและดูแล ซึ่งบริการจาก Red Hat จะทำการจัดการเลือกชิ้นส่วนที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่าย
บริการคลาวด์เหล่านี้ไม่เพียงอำนวยความสะดวกให้นักพัฒนา แต่ยังช่วยลดภาระฝ่ายไอทีที่ดูแลบริการ ตลอดจนฝ่ายธุรกิจที่เล็งเห็นโอกาสในด้านต่างๆ มาเป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ หรือการปรับปรุงระบบเดิม หรือหากต้องการทดสอบว่าจะใช้บริการเหล่านี้ได้ตรงความต้องการหรือไม่ก็สามารถทดสอบได้ทันโดยไม่ต้องเสียเวลาติดตั้ง
ทดสอบบริการคลาวด์พร้อมการจัดการของ Red Hat ได้แล้ววันนี้ |
# ก.ล.ต. กล่าวโทษ Binance ทำตลาดกับนักลงทุนไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ Binance ผู้ให้บริกาตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยระบุว่ามีการชักชวนนักลงทุนไทยให้ลงทุนทั้งทางเว็บไซต์เอง และผ่านทางเฟซบุ๊ก Binance Thai Community
ทางก.ล.ต. ระบุว่าได้ส่งหนังสือให้ Binance ชี้แจงแล้วแต่บริษัทไม่ได้ตอบกลับมาในเวลาที่กำหนด การกล่าวโทษครั้งนี้เป็นการเริ่มดำเนินคดี โดยต้องผ่านกระบวนการชั้นพนักงานสอบสวน, อัยการ, จนถึงศาลยุติธรรมต่อไป
พรก.ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เริ่มใช้งานตั้งแต่ปี 2018 กำหนดให้กิจการที่เกี่ยวข้องกับเงินคริปโตและโทเค็นต่างๆ ต้องได้รับอนุญาตก่อนประกอบกิจการ
ที่มา - ก.ล.ต.
ภาพจาก Facebook ก.ล.ต. |
# Pinterest แบนโฆษณาลดน้ำหนักทั้งหมด ลดปัญหาสุขภาพจิตจากความไม่พอใจรูปร่างตัวเอง
Pinterest ประกาศแบนโฆษณาลดน้ำหนัก ทำให้ Pinterest เป็นแพลตฟอร์มใหญ่เพียงแห่งเดียว ที่ห้ามโฆษณาลดน้ำหนักทั้งหมด ลดการขยายความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดน้ำหนักผิดวิธี และลดปัญหาสุขภาพจิตที่เกิดจากความไม่พอใจในรูปร่างตนเอง
โฆษณาที่ส่งเสริมไลฟ์สไตล์สุขภาพที่ดี หรือบริการฟิตเนสยังคงทำโฆษณาต่อได้ ทางบริษัทบอกด้วยว่าได้ร่างนโยบายโฆษณาโดยขอคำแนะนำจากสมาคม National Eating Disorders Association
MediaRadar บริษัทด้านการโฆษณาเผย แบรนด์ที่เน้นสินค้าลดน้ำหนักใช้จ่ายด้านโฆษณามากทั้งช่องทางทีวี ดิจิทัล และสิ่งพิมพ์ รวมแล้ว 372 ล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรกปี 2021 เพิ่มขึ้นถึง 89% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และจ่ายโฆษณาทาง Facebook เพิ่มขึ้นถึง 120%
Pinterest รายงานว่าผู้ใช้มากกว่า 60% ทั่วโลกเป็นผู้หญิง ทางบริษัทได้พยายามจัดการกับเนื้อหาที่เผยแพร่ความเชื่อการกินแบบผิดๆ ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะ eating disorder หรือพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ผิดปกติ ตั้งแต่ปี 2015 Pinterest ได้บล็อกการค้นหาเนื้อหาประเภทนี้
ที่มา - The Guardian |
# Humble Bundle เตรียมบังคับแบ่งเงินให้บริษัท 15-30% จากเดิมบริจาคให้การกุศลได้ทั้งหมด
Humble Bundle เว็บไซต์ขายเกมแบบยกแพ็ก ที่ให้ผู้ใช้จ่ายเท่าไรก็ได้ตามที่ต้องการ แต่จะมีเกมพิเศษให้ หากจ่ายเกินขั้นต่ำ ก่อนหน้านี้เคยให้ผู้ใช้สามารถเลือกบริจาคเงินทั้งหมด 100% ให้กับการกุศล โดยไม่แบ่งให้ผู้จัดจำหน่ายหรือเว็บ Humble Bundle ได้
ระบบนี้จะมีเปลี่ยนแปลงภายในกลางเดือนกรกฎาคม ให้ผู้ใช้ต้องแบ่งเงิน 15-30% ให้กับเว็บไซต์ Humble Bundle และส่วนแบ่งนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละชุดเกม แต่ Humble Bundle ยืนยันว่าจะมีเกมจัดชุดกรณีพิเศษ ที่ยังบริจาคเงินให้การกุศล 100% อยู่ คล้ายคลึงกับชุด Humble Heal COVID-19
Humble Bundle บอกว่าหน้า UI และสไลเดอร์ในการปรับเงินส่วนแบ่ง จะเขียนระบุชัดเจนว่าผู้ใช้ต้องแบ่งเงินเท่าไรให้เว็บไซต์เป็นขั้นต่ำ พร้อมบอกว่าโลกของสโตร์ขายเกมบนพีซีเปลี่ยนไปมาก การทำให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ยังมีรายได้อยู่ แปลว่าทีมงานจะสามารถลงทุนกับคอนเทนต์ใหม่ๆ ทำให้ชุมชนชาว Humble เติบโต เพื่อนำเงินไปสู่องค์กรการกุศลเพิ่มมากขึ้นได้ในอนาคต
Humble Bundle เคยทดสอบนำสไลเดอร์ที่มอบเงินให้การกุศล 100% ออก สำหรับผู้ใช้บางคน ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่การที่ไม่แจ้งล่วงหน้าทำให้เกิดประเด็นดราม่า ซึ่ง Humble Bundle ก็ออกมาเขียนบล็อกขอโทษ และชี้แจงในภายหลัง ก่อนอัพเดตนำสไลเดอร์กลับมาชั่วคราวในเดือนพฤษภาคม และแจ้งการเปลี่ยนแปลงส่วนแบ่งในบล็อกล่าสุดของเดือนนี้
Humble Bundle เคยให้สัมภาษณ์กับ ArsTechnica ในปี 2010 หลังเว็บเปิดตัวได้ไม่นาน ว่าแม้ผู้ซื้อจะเลือกบริจาคเงินทั้งหมดให้การกุศล ก็ยังถือว่าเป็นชัยชนะของบริษัทอยู่ อย่างไรก็ตาม Humble Bundle ขายกิจการให้ IGN ไปในปี 2017 และอาจเป็นไปได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ในการทำร้านค้าเกมบนพีซีโดยไม่มีรายได้เข้าบริษัทแบบตายตัว
ที่มา - Humble Bundle |
# ปูตินเซ็นอนุมัติ บริษัทโซเชียลมีเดีย ถ้ามาจากนอกประเทศ ต้องเปิดสำนักงานที่รัสเซียด้วย
วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเซ็นผ่านกฎหมายบังคับให้บริษัทโซเชียลมีเดียจากต่างประเทศ ถ้าเปิดใช้งานในรัสเซีย จะต้องตั้งสำนักงานที่รัสเซียด้วย ตัวกฎหมายนอกจากจะกระทบโซเชียลมีเดียแล้ว ยังกระทบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซด้วย
Alexander Khinshtein หัวหน้านโยบายข้อมูลและคณะกรรมการไอที กล่าวว่ากฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้กับบริษัทอินเทอร์เน็ตที่มีผู้ใช้งานรายวันในรัสเซียอย่างน้อย 500,000 คน โดยบริษัทต้องลงทะเบียนบัญชีบนเว็บไซต์ของ Roskomnadzor ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของรัสเซีย บริษัทที่ฝ่าฝืนจะเจอโทษแบนไม่ให้ทำโฆษณา
รัสเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการควขคุมเนื้อหาในอินเทอร์เน็ตสูง โดยเฉพาะเนื้อหาวิจารณ์รัฐบาล ทางรัฐบาลได้สั่งปรับบริษัทที่ล้มเหลวในการลบเนื้อหาผิดกฎหมาย ทั้ง Facebook, Google, Telegram และ Twitter ล้วนมีกำหนดการพิจารณาคดีในปลายเดือนนี้
ที่มา - Reuters |
# Western Digital เตรียมให้บริการกู้ข้อมูลฟรี หลังฮาร์ดดิสก์ My Book Live มีช่องโหว่ถูกล้างผ่านอินเทอร์เน็ต
Western Digital ออกประกาศช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีล้างฮาร์ดดิสก์ โดยเตรียมเปิดโครงการช่วยกู้ข้อมูลฟรี และสามารถแลก My Book Live เป็น My Cloud ราคาพิเศษ
ก่อนหน้านี้ Western Digital เคยระบุว่าคนร้ายที่ไล่ยิงคำสั่งล้างฮาร์ดดิสก์ My Book Live นั้นเป็นช่องโหว่ที่รายงานมาตั้งแต่ปี 2018 แต่รายงานใหม่ระบุว่าเป็นช่องโหว่ใหม่ CVE-2021-35941 นอกจากจะล้างข้อมูลในฮาร์ดดิสก์แล้วบางครั้งยังฝังมัลแวร์ไว้ในฮาร์ดดิสก์อีกด้วย
สำหรับผู้ได้รับผลกระทบตอนนี้ทาง Western Digital แนะนำให้ติดต่อฝ่ายซัพพอร์ต
ที่มา - @WesternDigital, Western Digital |
# Johnson & Johnson ระบุวัคซีนเข็มเดียวยังป้องกัน COVID-19 สายพันธุ์ Delta ได้ดี, 8 เดือนภูมิไม่ลด
Johnson & Johnson รายงานผลทดลองประสิทธิภาพวัคซีน Ad26.COV2.S ที่ฉีดเพียงเข็มเดียว ต่อเชื้อ COVID-19 ตระกูลกลายพันธุ์ต่างๆ โดยอาศัยการทดสอบภูมิคุ้มกันในกลุ่มผู้ร่วมทดสอบกลุ่มเล็ก พบว่าแม้ภูมิในสายพันธุ์ต่างๆ จะลดลง แต่กับสายพันธุ์ Delta (B.1617.2) นั้นมีอัตราภูมิลดลงเพียงเล็กน้อย แต่สายพันธุ์ Beta (B.1.351) และ Gamma (P.1) นั้นลดลงมากที่สุด
การทดลองใช้เซรุ่มจากกลุ่มผู้เข้าร่วมทดลองเฟส 3 ของ Johnson & Johnson จำนวน 8 คน
นอกจากนี้ ผลการติดตามการทำงานของวัคซีนในช่วง 8 เดือนแรก ยังพบว่าภูมิคุ้มกันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าวัคซีนน่าจะมีผลดีในช่วงนี้ต่อไป
ที่มา - Johnson & Johnson
แผนภาพแสดงระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ต่างๆ |
# [ลือ] Intel และ Apple เตรียมใช้ชิปเทคโนโลยี 3nm ของ TSMC ในปีหน้า
Nikkei Asia อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนระบุว่า Intel และ Apple กำลังทดสอบผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรของ TSMC คาดเริ่มผลิตสำหรับการค้าได้ภายในครึ่งหลังของปี 2022 โดย TSMC ระบุว่าเทคโนโลยยี 3 นาโนเมตร นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้ 10% และลดการใช้พลังงานลง 25-30%
แหล่งข่าวระบุว่าว่าชิปที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร จะถูกใช้กับ iPad ก่อน เนื่องจากกำลังผลิตยังไม่เพียงพอสำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple
ส่วน Intel จะใช้ชิปเทคโนโลยีการผลิต 3 นาโนเมตร ของ TSMC กับซีพียูโน้ตบุ๊กและดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อดึงส่วนแบ่งตลาดกลับมาจาก AMD และเตรียมรับมือ NVIDIA ภายในสิ้นปี 2022 หลังเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร ของ Intel เอง เลื่อนกำหนดการไปเป็นปี 2023 แถมชิป Xeon 10 นาโนเมตร ก็เลื่อนกำหนดออกจากสิ้นปีนี้ไปเป็นไตรมาสที่สองของปีหน้า
Intel ตอบคำถามประเด็นนี้ของ Nikkei Asia ยืนยันว่าทำงานร่วมกับ TSMC เพื่อผลิตอุปกรณ์ที่จะออกในปี 2023 จริง แต่ไม่ยืนยันว่าใช้เทคโนโลยีผลิตชิปแบบใด
AMD มีส่วนแบ่งตลาดซีพียูโน้ตบุ๊กเพิ่มจาก 11% ในปี 2019 เป็นมากกว่า 20% ในปีที่ผ่านมา และ Nikkei ยังรายงานว่า AMD เองก็เตรียมใช้เทคโนโลยี 5 นาโนเมตรของ TSMC ผลิตซีพียูโน้ตบุ๊กในปีหน้าเช่นกัน
ฝั่ง NVIDIA เองก็เตรียมบุกตลาดซีพียูสำหรับเซิฟเวอร์ โดยจะออก ‘Grace’ ซีพียูสำหรับเซิฟเวอร์รุ่นแรกของบริษัท ภายในปี 2023 ผลิตโดยเทคโนโลยี 5 นาโนเมตรของ TSMC เช่นกัน
ซีพียู ‘Grace’ ของ NVIDIA
การที่ชิปของอุปกรณ์หลายอย่างในสหรัฐฯ ต้องใช้เทคโนโลยีการผลิตของบริษัทไต้หวันอย่าง TSMC มากขึ้นเรื่อยๆ อาจกลายเป็นปัญหาสำคัญด้านความปลอดภัยของประเทศ หากเกิดปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ในอนาคต เช่นความตึงเครียดกับประเทศจีนที่เพิ่มมากขึ้น
ในประเด็นนี้ โจ ไบเดน เตรียมผลักดันงบประมาณในการผลิตชิปในประเทศมากขึ้น โดยร่างงบประมาณ 52 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ เพิ่งผ่านสภาสูง (senate - วุฒิสภา) เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ยังต้องผ่านสภาล่าง (house - สภาผู้แทนราษฎร) ต่อไป
ที่มา - Nikkei Asia |
# Ghost of Tsushima Director’s Cut ลง PS4, PS5 20 สิงหาคมนี้ เพิ่มเกาะใหม่ ซิงก์ปากตามเสียงญี่ปุ่น เฉพาะบน PS5
Sucker Punch เตรียมวางจำหน่ายเกม Ghost of Tsushima เวอร์ชั่น Director’s Cut บน PS4, PS5 วันที่ 20 สิงหาคมนี้ ในเกมเพิ่มเกาะใหม่ เกาะ Iki ที่เป็นเกาะข้างเคียงของ Tsushima พร้อมเนื้อเรื่องเพิ่มเติม ที่จิน ต้องไปสืบเรื่องของทัพมองโกลบนเกาะ แต่ต้องพบเรื่องราวที่ทำให้เขาต้องหวนนึกถึงอดีตอันเลวร้าย
บนเกาะใหม่จะมีสภาพแวดล้อมใหม่ เกราะทั้งของจินและของม้า มินิเกมใหม่ เทคนิคต่อสู้ ศัตรูประเภทใหม่ รวมไปถึงสัตว์ชนิดใหม่ที่ลูบหัวได้
เวอร์ชั่น PS5 เพิ่มฟีเจอร์หลายอย่างที่ไม่มีบน PS4 เช่นการซิงก์ปากเข้ากับเสียงภาษาญี่ปุ่น ด้วยความสามารถในการเรนเดอร์คัทซีนแบบเรียลไทม์ของ PS5 มีระบบ haptic feedback และ adaptive trigger (คาดว่าใช้ตอนยิงธนู) มีระบบ 3D Audio เกมโหลดไวขึ้น มีตัวเลือกภาพ 4K และเฟรมเรต 60 FPS
ผู้เล่นสามารถนำเซฟของเวอร์ชั่นเก่ามาเล่นต่อได้ โดยเกาะ Iki จะสามารถไปเยี่ยมชมได้ หลังเล่นถึง Act 2 และไปยังเขต Toyotama แล้ว
ตัวเกมขายราคา $69.99 ดอลลาร์ บน PS5 และ $59.99 ดอลลาร์ บน PS4 แต่หลัง 20 สิงหาคมจะมีออปชั่นให้คนที่ซื้อ Director’s Cut บน PS4 อัพเกรดเป็นเวอร์ชั่น PS5 ได้ในราคา 9.99 ดอลลาร์
คนที่มีเวอร์ชั่นธรรมดาบน PS4 อยู่แล้ว สามารถพรีออเดอร์อัพเกรดเป็นเวอร์ชั่น Director’s Cut บน PS4 ได้ในราคา 19.99 ดอลลาร์ หรืออัพเกรดเป็นเวอร์ชั่น Director's Cut บน PS5 ได้ในราคา 29.99 ดอลลาร์ ได้อัพเกรดหลังวันที่ 20 สิงหาคมเป็นต้นไป
ที่มา - PlayStation Blog
ภาพจากเวอร์ชั่น PS5 |
# ยืนยันแล้ว Windows 11 บังคับใช้ Microsoft Account ล็อกอิน, ถ้าไม่อยากต้องซื้อรุ่น Pro
ไมโครซอฟท์พยายามให้ล็อกอินเข้า Windows ด้วยบัญชีออนไลน์ Microsoft Account มานานพอสมควร แต่กรณีของ Windows 10 ยังพอมีวิธีเลี่ยง เพื่อล็อกอินด้วยบัญชีแบบ local ได้บ้าง
กรณีของ Windows 11 มีคนพบว่าไมโครซอฟท์บังคับให้ใช้ Microsoft Account เท่านั้น ล่าสุดมีข้อมูลใหม่ว่าสามารถยกเว้นได้เช่นกัน แต่เฉพาะบน Windows 11 Pro ที่ราคาแพงกว่ารุ่น Home
เหตุผลที่ไมโครซอฟท์ผลักดันการใช้บัญชีออนไลน์สุดตัว คงเป็นเพราะระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ๆ มีฟีเจอร์ที่ต้องซิงก์กับคลาวด์มากขึ้นเรื่อยๆ (เช่น OneDrive หรือการซิงก์ค่าบางอย่าง) อย่างไรก็ตาม การตื่นตัวในแง่ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ก็กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้หลายๆ คนไม่อยากใช้บัญชีออนไลน์เช่นกัน
ที่มา - PCWorld |
# [ลือ] เกมใหม่ของ Hideo Kojima อาจลง Xbox ด้วย กำลังเจรจาไมโครซอฟท์
เว็บไซต์ GamesBeat ในเครือ VentureBeat ให้ข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า Hideo Kojima เซ็นสัญญาเบื้องต้น (letter of intent) เพื่อเจรจานำเกมใหม่ของเขามาลงแพลตฟอร์ม Xbox แล้ว
กระบวนการพูดคุยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่อย่างน้อยๆ เราก็พอเห็นข่าวว่ามีความจริงจังถึงทั้งสองฝ่ายลงชื่อในเอกสารทางกฎหมายร่วมกัน ไปไกลกว่าการพูดคุยด้วยปากเปล่าอย่างเดียว
ก่อนหน้านี้ Kojima เปิดเผยว่าทำเกมใหม่อยู่ แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่าเป็นเกมแนวไหน ส่วนเกม Death Stranding ของ Kojima ลงเฉพาะ PlayStation กับพีซีเท่านั้น โดยเวอร์ชัน PS4/PS5 จัดจำหน่ายโดย SIE และเวอร์ชันพีซีโดย 505 Games
GamesBeat ประเมินว่าการเซ็นสัญญากับ Xbox รอบนี้ไม่น่าจะเป็นเอ็กซ์คลูซีฟ Xbox อย่างเดียว เพราะ Kojima ก็มีสายสัมพันธ์อันดีกับโซนี่มาตลอด จึงน่าจะเป็นแค่การขยายเกมมาลง Xbox ด้วยเท่านั้น
ที่มา - GamesBeat
ภาพจาก Kojima Productions |
# Facebook Gaming ขยายบริการเล่นเกมผ่านคลาวด์นอกสหรัฐ, เพิ่มเกมมือถือจาก Ubisoft
Facebook Gaming ประกาศขยายบริการเล่นเกมผ่านคลาวด์ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2020 ให้ครอบคลุมผู้ใช้งานเกือบทั้งสหรัฐอเมริกา และเริ่มขยายพื้นที่ไปยังแคนาดา เม็กซิโกแล้ว จากนั้นจะข้ามไปฝั่งยุโรปในช่วงต้นปี 2022
Facebook ยังประกาศความร่วมมือกับ Ubisoft นำเกม Assassin’s Creed Rebellion เวอร์ชันมือถือมาให้เล่นผ่านคลาวด์ด้วย ผู้ใช้สามารถเล่นได้จากแอพ Facebook บนแอนดรอยด์ หรือผ่านเบราว์เซอร์ได้ที่ fb.gg/play
ปัจจุบัน Facebook Gaming มีเกมให้เล่นทั้งหมด 25 เกม ยังเป็นเกมมือถือทั้งหมด เกมเด่นอื่นๆ ได้แก่ Roller Coaster Tycoon Touch, Lego Legacy Heroes Unboxed, Dragon Mania Legends
ที่มา - Facebook |
# แนวคิดใหม่ Twitter โพสต์ไทม์ไลน์ให้ดูเฉพาะเพื่อนสนิท, เลือกหัวข้อที่เราอยากติดตามจากคนๆ หนึ่งได้
Twitter เผยแนวคิดใหม่ใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงการใช้งานทั่วไปหลายอย่าง ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมความคิดเห็น ซึ่งถ้ามีการนำมาใช้จริง จะเปลี่ยนวิถีการเล่น Twitter ไปอย่างสิ้นเชิง
เริ่มจาก Trusted Friends ผู้ใช้สามารถโพสต์บนไทม์ไลน์ ที่ให้ดูกันเฉพาะในกลุ่มเพื่อนที่เราไว้ใจ สามารถตั้งค่าได้ว่าจะเพิ่มใครเข้ามาในกลุ่มเพื่อนได้บ้าง
ฟังก์ชั่นนี้สามารถเทียบได้กับ Close Friends ของ Instagram ที่โพสต์ Stories ให้เพื่อนสนิทดูเท่านั้น แต่ Trusted Friends มีผลกับเนื้อหาที่โพสต์บนไทม์ไลน์ปกติเลย ทาง Twitter ระบุว่า ฟีเจอร์นี้อาจช่วยคนที่ใช้งานหลายบัญชีใช้งานง่ายขึ้น ไม่ต้องคอยสลับบัญชี เพราะหลายๆ คนใช้ Twitter มากกว่า 1 บัญชีอยู่แล้ว
ภาพจาก About Twitter
นอกจากนี้ยังมีแนวคิด Reply Language Prompts หรือผู้ใช้งานเลือกประโยค วลีที่ไม่ต้องการเห็นเวลามีคนมาคอมเม้นท์ใต้โพสต์ คนที่คอมเม้นท์จะสามารถรู้ได้ทันทีว่าตัวเองกำลังพิม์คำที่เจ้าของโพสต์ไม่ชอบ
นอกเหนือจาก Trusted Friends ยังมีแนวคิด Facets ให้ผู้ใช้รายอื่นสามารถเลือกได้ว่าต้องการติดตามทวีตทั้งหมดของเราหรือเฉพาะในแง่มุมที่พวกเขาสนใจเท่านั้น เช่น อยากติดตามเราเวลาโพสต์เรื่องเทคโนโลยี หรือการวิจารณ์การแข่งขันฟุตบอล เป็นต้น
Twitter ในระยะหลัง ทำฟีเจอร์ที่ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการมีส่วนร่วมบนไทม์ไลน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นเลือกได้ว่าใครสามารถคอบโพสต์หรือเมนชั่นหาเราได้บ้าง ก่อนหน้านี้ Twitter ก็ถามความเห็นผู้ใช้งาน หากทำฟีเจอร์ห้ามคนอื่นเมนชั่นหาเรา จะลดการคุกคามได้หรือไม่
ที่มา - 9to5Mac, TechCrunch |
# TikTok ให้แชร์วิดีโอความยาวสูงสุด 3 นาที จากเดิม 60 วินาที
TikTok ประกาศให้ผู้ใช้งานสามารถเผยแพร่คลิปด้วยความยาวสูงสุด 3 นาที จากเดิมให้เพียง 60 วินาที โดย TikTok ระบุว่าความยาวที่เพิ่มขึ้นนี้ ช่วยให้ครีเอเตอร์ได้แสดงพลังความสร้างสรรค์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคลิปการเรียนการสอน ทำอาหาร และการแต่งหน้าในลุคต่างๆ
TikTok ทดสอบฟังก์ชั่นนี้มาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว และจะเปิดให้ใช้งานทั่วไปภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
TikTok เองก็ต้องพยายามที่จะดึงดูดผู้ใช้ให้อยู่บนแพลตฟอร์มได้นาน แข่งกับ YouTube ที่เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอรายใหญ่ที่สุด TikTok ไม่ได้บอกว่าคลิปที่ยาวขึ้นจะส่งผลต่ออัลกอริธึมการแนะนำที่เป็นที่ชื่นชอบมากเพียงใด
ที่มา - TikTok, The Verge |
# HPE ซื้อกิจการ Zerto ผู้พัฒนาบริการ Cloud Data Management
HPE ประกาศซื้อกิจการ Zerto ผู้พัฒนาบริการจัดการข้อมูลและปกป้องข้อมูลบนคลาวด์ ด้วยมูลค่าดีล 374 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบริการของ Zerto จะมาเป็นส่วนหนึ่งของชุดบริการ HPE GreenLake
Zerto ก่อตั้งในปี 2009 บริษัทมีลูกค้าราว 9,000 ราย ซึ่งรวมทั้งองค์กรขนาดใหญ่ และผู้ให้บริการออนไลน์ราว 350 ราย บริการของ Zerto เรียกว่า DRaaS หรือ Disaster recovery as a service เพื่อบริหารจัดการและปกป้องข้อมูลทั้งระดับ Edge ไปจนถึง Cloud
Antonio Neri ซีอีโอ HPE กล่าวถึงดีลนี้ว่า องค์กรต่าง ๆ พบกับความท้าทายที่ซับซ้อนมากขึ้นในการบริหารจัดการ และปกป้องข้อมูลขององค์กร เนื่องจากการเติบโตของปริมาณข้อมูลในโครงสร้างที่เป็นไฮบริด ซึ่งบริการของ Zerto จะเข้ามาช่วยขยายบริการ GreenLake ของ HPE ให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการข้อมูลในเชิงลึกได้ดีมากขึ้น
ที่มา: HPE |
# Sony ซื้อสตูดิโอเกมรายที่สองในรอบสัปดาห์ Nixxes ที่เชี่ยวชาญเรื่องพอร์ตเกม
โซนี่ประกาศข่าวซื้อกิจการสตูดิโอเกมรายที่สองในรอบสัปดาห์ (รายแรกคือ Housemarque จากฟินแลนด์ ที่ทำเกม Returnal) คือ Nixxes Software สตูดิโอจากเนเธอร์แลนด์
คนจำนวนมากไม่น่าจะเคยได้ยินชื่อ Nixxes Software มาก่อน ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะ Nixxes ไม่เคยทำเกมของตัวเองเลย แต่เป็นสตูดิโอที่เชี่ยวชาญการพอร์ตเกมข้ามแพลตฟอร์มอย่างมาก รับงานพอร์ตเกมให้ Eidos Montreal กับ Crystal Dynamics มาเยอะมาก ล่าสุดคือ Marvel's Avenger (ปัจจุบันเป็นบริษัทลูกของ Square Enix ทั้งคู่) และเคยช่วยโซนี่พัฒนาเกม Killzone Shadowfall วางขายพร้อม PS4 ตอนเปิดตัว
ทิศทางของโซนี่ในการนำเกมเอ็กซ์คลูซีฟของ PlayStation มาลงพีซีอย่างต่อเนื่อง เช่น Horizon Zero Dawn, Days Gone ก็ไม่น่าแปลกใจนักที่จะซื้อสตูดิโอเชี่ยวชาญการพอร์ตเกมอย่าง Nixxes นอกจากนี้ก็ยังมีกระแสลือกันว่า โซนี่น่าจะซื้อ Bluepoint Games ที่ช่วยรีเมค Demon's Souls เวอร์ชัน PS5 ด้วยเช่นกัน
ที่มา - Eurogamer, Ars Technica, Nixxes |
# Spotify ออกแอปเวอร์ชันเบต้า สำหรับ Mac ที่ใช้ M1
Spotify ประกาศออกอัพเดตแอปที่ปรับปรุงสำหรับรันโดยตรงได้บน Mac ที่ใช้ซีพียู Apple Silicon หรือสำหรับ Mac ชิป M1 ในตอนนี้
ทั้งนี้ Spotify ย้ำว่าสถานะของ Spotify บน Apple Silicon ยังเป็นเวอร์ชันเบต้าจึงอาจพบปัญหาได้ในการใช้งาน ซึ่งผู้ใช้ที่พบปัญหาสามารถแจ้งมาเพื่อให้นักพัฒนาแก้ไข
สามารถดาวน์โหลด Spotify เวอร์ชันสำหรับ Apple Silicon ได้ที่ Spotify Community
ที่มา: 9to5Mac |
# Opera ปรับแต่งเบราว์เซอร์บน Android ให้รองรับ Chrome OS แล้ว
Opera เปิดตัวเบราว์เซอร์เวอร์ชัน Chrome OS อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการนำเวอร์ชัน Android มาปรับแต่งให้เหมาะสมกับการรันบนแล็ปท็อป เช่น เพิ่มคีย์บอร์ดชอร์ทคัท เป็นต้น
Opera ระบุว่า เบราว์เซอร์ Opera บน Chrome OS จะยังคงมีฟีเจอร์เหมือนกับ Opera บนแพลตฟอร์มอื่น เช่น VPN ฟรีไม่จำกัด, ระบบซิงค์ข้อมูลร่วมกับ Opera บนแพลตฟอร์มอื่น, โซเชียลเน็ตเวิร์คที่ฝังมาในตัว และคริปโตวอลเล็ต เป็นต้น
ผู้ใช้ Chrome OS สามารถดาวน์โหลด Opera for Chrome OS ได้แล้วที่ Google Play
ที่มา - Engadget, Opera |
# Micron ขายโรงงานหน่วยความจำ 3D XPoint ที่ใช้ใน Optane ให้ Texas Instrument
Micron ประกาศขายโรงงานผลิตหน่วยความจำแบบ 3D XPoint ที่ร่วมพัฒนากับอินเทลเป็น Optane (ประกาศเลิกทำเมื่อต้นปี) ให้กับ Texas Instrument แล้ว ถือเป็นการปิดฉากการลงทุนในหน่วยความจำ non-volatile memory ที่ล้มเหลวของ Micron
ฝั่งของอินเทลยังไม่มีท่าทีชัดเจนว่าจะเอายังไงกับ Optane ต่อไป แต่เมื่อหน่วยความจำที่ใช้ใน Optane ต้องผลิตจากโรงงานของ Micron ก็ไม่น่าจะไปต่อได้ง่ายนัก
โรงงานผลิตหน่วยความจำแห่งนี้อยู่ที่เมือง Lehi ในรัฐ Utah ของสหรัฐ มูลค่าการขายกิจการรวมทั้งหมด 1.5 พันล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นเงินสด 900 ล้านดอลลาร์ และการตีมูลค่าจากเครื่องมือและทรัพย์สินต่างๆ อีก 600 ล้านดอลลาร์
Texas Instrument จะนำโรงงานแห่งนี้ไปผลิตสินค้าเซมิคอนดักเตอร์อื่นแทน โดยจะเสนอจ้างพนักงานของ Micron ที่โรงงานแห่งนี้ให้ทำงานต่อ หลังกระบวนการซื้อขายเสร็จสมบูรณ์
ที่มา - Micron |
# Nissan จับมือพาร์ทเนอร์จีนลงทุน 1 พันล้านปอนด์ ตั้งโรงงานผลิตแบต EV ในอังกฤษ
Nissan ประกาศจับมือกับ Envision Group บริษัทพลังงานรายใหญ่จากจีน ร่วมกันลงทุน 1 พันล้านปอนด์หรือราว 4.4 หมื่นล้านบาทเพื่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่เมือง Sunderland ประเทศอังกฤษ
โปรเจ็คนี้ใช้ชื่อว่า Nissan EV36Zero จะสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ที่มีกำลังผลิต 9 กิกะวัตต์ ใกล้กับโรงงานประกอบรถยนต์ของ Nissan ที่เมือง Sunderland โดย Ashwani Gupta ซีโอโอของ Nissan ระบุว่าโรงงานใหม่นี้จะซัพพอร์ตด้านการวิจัยและพัฒนารถยนต์ในสหราชอาณาจักร รวมถึงยกระดับความสามารถของแรงงานด้วย ซึ่งแบตเตอรี่ที่จะผลิตขึ้นที่นี่จะถูกนำไปใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของ Nissan ถึง 100,000 คันต่อปี
ในประกาศยังระบุว่าโรงงานแห่งนี้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 35 กิกะวัตต์ได้ด้วยเงินลงทุนราว 1.8 พันล้านปอนด์หรือราว 8 หมื่นล้านบาท
หุ่นยนต์ที่โรงงาน Nissan ในเมือง Sunderland กำลังผลิต Nissan LEAF | ภาพโดย Nissan
ฝั่งสภาเทศบาลเมือง Sunderland ก็ตอบรับการมาลงทุนของ Nissan โดยการเตรียมสร้างโซลาร์ฟาร์มเพิ่มอีก 10 แห่ง เพื่อป้อนพลังงานสะอาด 100% ให้ Nissan และซัพพลายเออร์โดยรอบ เล็งสร้างงาน 6,200 ตำแหน่ง
แบตเตอรี่เป็นชิ้นส่วนที่แพงและสำคัญที่สุดในรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างพากันหาพาร์ทเนอร์ด้านแบตเตอรี่กันอย่างจริงจัง เช่น General Motors ก็ร่วมมือกับ LG Chem ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในสหรัฐอเมริกา แต่ฝั่ง Tesla ใช้กลยุทธ์สร้างโรงงาน Gigafactory ผลิตแบตเตอรี่ของตัวเอง รวมถึงสั่งจาก Panasonic, LG และ CATL ด้วย
รถยนต์ไฟฟ้ากำลังบูมในตลาดยุโรป โดยในปี 2020 ยอดขายรถยนต์ใหม่ในยุโรปเป็นรถยนต์ไฟฟ้าถึง 10% ทะยานจากเพียง 3.2% ในปี 2019 เป็นผลจากการอุดหนุนของรัฐบาลและกฎระเบียบด้านมลพิษที่เข้มงวดขึ้น
ที่มา - Nikkei Asia |
# EU เริ่มใช้ใบรับรองวัคซีน COVID แบบดิจิทัลแล้ว แสดง QR บนมือถือเพื่อยืนยันว่าฉีดแล้ว
วันนี้ 1 ก.ค. สหภาพยุโรปเริ่มใช้งานใบรับรองฉีดวัคซีน COVID-19 แบบดิจิทัลแล้ว โดยมีชาติสมาชิกเข้าร่วมทั้งหมด 29 ประเทศ
ประชาชนในชาติสมาชิกที่เข้าร่วม ที่ฉีดวัคซีนแล้ว / ทดสอบแล้วผลเป็นลบ / ป่วยแล้วหายแล้ว จะได้ใบรับรองนี้มาใช้งาน วิธีการคือแสดง QR Code บนโทรศัพท์มือถือ เพื่อแสดงตนเวลาเดินทางในสหภาพยุโรป หากสถานที่บางแห่งจำเป็นต้องตรวจสอบว่าฉีดวัคซีนหรือยัง ก็สามารถแสดง QR Code เพื่อให้เจ้าหน้าที่สแกนได้ (ในกรณีที่ไม่มีมือถือ ก็สามารถขอเวอร์ชันกระดาษที่มี QR ได้เช่นกัน)
ข้อมูลที่เก็บในใบรับรองดิจิทัลประกอบด้วยชื่อ วันเดือนปีเกิด วันออกใบรับรอง ชนิดของวัคซีนหรือการทดสอบ และ unique identifier เฉพาะ ข้อมูลเหล่านี้ถูกเก็บไว้ในใบรับรองดิจิทัลเท่านั้น และไม่ถูกแชร์ออกไปเมื่อไปสแกนใบรับรองนี้ในประเทศสมาชิก
กระบวนการตอนสแกนเพื่อตรวจสอบว่าใบรับรองเป็นของจริง ใช้วิธีตรวจ digital signature ที่อยู่ใน QR โดยไม่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และคีย์ที่ใช้ตรวจสอบจะถูกเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ระดับชาติเท่านั้น ตัวซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่ใช้ในโครงการ เปิดซอร์สโค้ดบน GitHub
ที่มา - EU, EU, BBC |
# Facebook, Google, Twitter และ TikTok ลงนามจัดการการล่วงละเมิดทางเพศบนโลกออนไลน์
Facebook, Google, Twitter และ TikTok ลงนามกับ World Wide Web Foundation (WWWF) ในการให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดการความรุนแรง การคุกคามล่วงละเมิดทางเพศบนอินเทอร์เน็ต
ข้อมูลจาก Economist Intelligence Unit ระบุว่า ผู้หญิงมากกว่าหนึ่งในสามทั่วโลกเคยประสบกับการล่วงละเมิดทางออนไลน์ โดยเป็นปริมาณเพิ่มขึ้นเกือบครึ่งสำหรับผู้หญิงที่ยังเป็นเยาวชน
บริษัทโซเชียลมีเดียทั้งสี่ จึงต้องลงนามเพื่อให้คำมั่นว่าจะจัดการกับการล่วงละเมิดดังกล่าวโดยเน้นที่ประเด็นสำคัญสองอย่างคือ ความสามารถในการควบคุมได้ว่าใครสามารถตอบคอมเม้นท์ แสดงความคิดเห็น และมีส่วนร่วมกับโพสต์ของตนได้นั้นยังไม่มากพอ กับอย่างที่สองคือ บนแพลตฟอร์มยังขาดระบบการรายงานและการระบุเรื่องการล่วงละเมิดที่เป็นรูปธรรม
ภาพจาก World Wide Web Foundation ออกแบบโดย Thomas Pullin
ประเด็นแรก โซเชียลมีเดียต้องมีระบบตั้งค่าควบคุมได้ว่าใครมีส่วนร่วมกับโพสต์ของเราได้บ้าง (Twitter เริ่มทำแล้ว) ส่วนอย่างที่สอง บริษัทต้องให้ผู้ใช้สามารถติดตามและจัดการรายงานของตนได้ และการระบุเนื้อหาที่คุกคาม
Azmina Dhrodia ผู้จัดการนโยบายอาวุโสของ WWWF บอกว่า เป็นเวลานานเกินไปแล้วที่ผู้หญิงถูกคุกคาม โจมตี และถูกทำให้เงียบในพื้นที่ออนไลน์ เป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อความก้าวหน้าด้านความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งบริษัททั้งสี่เป็นแพลตฟอร์มใหญ่ มีอำนาจและศักยภาพที่จะควบคุมการละเมิดนี้ได้
ที่มา - The Guardian |
# Porsche เตรียมเรียกคืน Taycan ทั่วโลกมาอัพเดตซอฟต์แวร์ หลังพบรถบางคันสูญเสียกำลังกะทันหัน
Porsche Taycan เป็นรถไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของ Porsche ค่ายรถซูเปอร์คาร์จากเยอรมนี โดยหลังเปิดตัวและวางจำหน่ายก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟนๆ ทั่วโลก แต่กลับมีรายงานว่ารถบางคันในสหรัฐอเมริกาสูญเสียกำลังและเข้าสู่โหมดฉุกเฉินกะทันหัน ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยบนทางหลวงของสหรัฐอเมริกา (NHTSA) ต้องเข้ามาสอบสวน
ล่าสุดแหล่งข่าวระบุกับ Bloomberg ว่า Porsche เตรียมเรียกคืนรถ Taycan ทั่วโลกเข้ามารับการแก้ไขซอฟต์แวร์ที่ทำให้เกิดปัญหาข้างต้น โดย Porsche น่าจะประกาศอย่างเป็นทางการในไม่กี่วันข้างหน้านี้
เมื่อเทียบกับผู้นำตลาดอย่าง Tesla ที่เพิ่งมีกรณี "เรียกคืน" รถกว่า 285,000 คันในประเทศจีน หลังมีปัญหาระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (cruise control) เปิดใช้งานโดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว แต่ Tesla สามารถแก้ปัญหาได้โดยการส่งซอฟต์แวร์อัพเดตไปที่รถทุกคันแทน โดยเจ้าของรถไม่ต้องนำรถไปเข้าศูนย์แต่อย่างใด
Porsche Taycan ถูกเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2019 มีทั้งหมด 4 รุ่นย่อยคือ Taycan, Taycan 4S, Taycan Turbo และ Taycan Turbo S โดยในประเทศไทยวางจำหน่ายที่ราคาเริ่มต้น 6,190,000 บาท
ที่มา - Bloomberg |
# Windows 11 Insider Preview รันได้บน Raspberry Pi ไปจนถึง Lumia 950XL
Windows 11 Insider Preview (build 22000.51) เปิดให้ดาวน์โหลดทดสอบผ่าน Dev channel บนโครงการ Windows Insider เมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา โดยเวอร์ชั่นนี้จะไม่มี hardware checks หรือการตรวจสอบว่าฮาร์ดแวร์ของผู้ใช้รองรับ Windows 11 หรือไม่ ทำให้มีผู้ใช้ทดลองนำ Windows 11 ไปรันบนอุปกรณ์แปลกๆ ทั้ง Microsoft Lumia 950XL และ Raspberry Pi
ผู้ใช้ Gustave Monce (@gus33000) บนทวิตเตอร์ โชว์วิดีโอทดสอบ Windows 11 บน Nokia Lumia 950XL มือถือ Windows Phone ที่วางขายในปี 2015 พบว่าพอใช้งานได้ แม้จะช้าและสัมผัสหน้าจอยาก แต่ Snap Layout ยังสามารถจัดเรียงหน้าจอเมื่อเปลี่ยนมือถือจากแนวตั้งเป็นแนวนอนได้ และโทรออกได้
ส่วนผู้ใช้ 七宮さん (@shichinomiya_s) ก็โชว์การรัน Windows 11 บน Raspberry Pi 4 รวมถึงระบุวิธีการติดตั้งไว้บนบล็อกของเขาเองที่ชื่อ miyagadget อีกด้วย
เว็บไซต์ The Register ก็ได้นำ Windows 11 มาทดสอบบน Raspberry Pi 400 พบว่ารันได้เช่นกัน แม้จะช้าและมีหน้าต่างสี่เหลี่ยมแบบ Windows 10 โผล่มาบ้าง และอาจจะไม่เหมาะที่จะนำไปใช้งานจริง แต่ก็ถือเป็นการทดลองสนุกๆ ที่ผู้ใช้ที่มีความสามารถทางเทคนิคจะได้ลองนำ Windows มาทดลองลงบนอุปกรณ์เวอร์ชั่นแปลกๆ กัน จนกว่าจะมีการอัพเดตเพิ่ม hardware check เข้ามาในอนาคต
ที่มา - The Register |
# เหมืองคริปโตจีนทยอยเทขายการ์ดจอ RTX3070 เหลือราว 13,000 บาท
หลังทางการจีนเริ่มดำเนินนโยบายต่อต้านเหมืองขุดเงินคริปโต ก็เริ่มมีรายงานอุปกรณ์ที่ใช้ในเหมืองขุดถูกขายออกมาเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เริ่มมีรายงานออกมาว่าตลาดการ์ดกราฟิกมือสองในจีนเริ่มราคาลดลงอย่างหนักหลังเหล่าเหมืองนำสินค้าออกมาขาย เช่น การ์ด RTX3070 นั้นขายที่ 2,600 หยวน หรือ 13,000 บาทเท่านั้น
HKEPC ระบุว่า การ์ดจอที่นำมาขายมีทั้งฝั่ง AMD ตั้งแต่ Radeon 6000, ย้อนไปถึง RX 400 ส่วน NVIDIA มีตั้งแต่ RTX 30xx ย้อนไปถึง GTX 10xx ตัวอย่างราคา RTX 3070 ที่มีขายในระดับร้อยใบ ตกใบละ 2,600 หยวนหรือราว 13,000 บาท จากราคาเปิดตัว 499 ดอลลาร์ หรือราว 16,000 บาท
อย่างไรก็ตาม การ์ดจอที่ผ่านการขุดเหมืองคริปโตมาก่อน เป็นการ์ดจอที่ผ่านการใช้งานหนักตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลาหลายเดือนหรืออาจเป็นแรมปี ไม่น่าจะอยู่ในสภาพที่ควรซื้อมาใช้เล่นเกม ซึ่ง HKEPC ก็เตือนเกมเมอร์ที่ต้องการหาการ์ดจอราคาถูกในเรื่องนี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าถ้าตลาดคริปโตยังซบเซา ผนวกกับการขยับไปใช้ proof-of-stake ของ Ethereum ในอนาคตและมาตรการลดพลังขุดของ NVIDIA ก็อาจทำให้การ์ดจอค่อยๆ ราคาลดลงได้
ที่มา - HKEPC via PCGamer |
# AT&T ใช้งาน Google Messages เป็นแอพส่งข้อความดีฟอลต์บน Android
กูเกิลพยายามผลักดันข้อความแบบ Rich Communication Service (RCS) มาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว เมื่อปลายปี 2020 บริการนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ตราบเท่าที่โอเปอเรเตอร์รองรับ (ใช้ในไทยได้ด้วย)
ในอีกด้าน กูเกิลก็ผลักดันการใช้แอพ Google Messages ที่ฝังฟีเจอร์ RCS ในตัวบนมือถือ Android ยี่ห้อต่างๆ เช่น ซัมซุงที่เปลี่ยนมาใช้แอปของกูเกิลแทนของตัวเอง ส่วนฝั่งโอเปอเรเตอร์ในสหรัฐที่ขายมือถือเองด้วย ก็มี T-Mobile ที่ประกาศใช้งานเมื่อต้นปี
ล่าสุด AT&T เป็นเครือข่ายใหญ่รายที่สองที่ใช้ Google Messages เป็นดีฟอลต์เช่นกัน ทำให้เหลือเพียง Verizon เป็นโอเปอเรเตอร์ใหญ่รายเดียวในสหรัฐที่ยังเหลืออยู่
สหรัฐอเมริกายังเป็นประเทศที่นิยมคุยกันด้วย SMS เพราะส่งข้อความข้ามค่าย-ข้ามแพลตฟอร์มได้ง่าย การที่โอเปอเรเตอร์ใหญ่ๆ ในสหรัฐรองรับ RCS กันหมดย่อมทำให้ RCS เข้ามาทดแทน SMS แบบเดิมได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังเหลือผู้ใช้ฝั่ง iPhone ที่ยังไม่มีท่าทีรองรับ RCS เลย (เพราะแอปเปิลผลักดันไปใช้ iMessages) ก็ต้องรอดูกันว่ากูเกิลจะสู้ศึกนี้ในระยะยาวได้อย่างไร
ที่มา - Google |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.